สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ จว.นราธิวาส ดังนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.30 น. และ เวลา 07.40 น. ต่อเนื่องกัน ของวันที่ 15 ส.ค. 2565 โดยทาง สภ.สุไหงปาดี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและไม่ทราบจำนวน ได้ลักลอบวางระเบิด ที่บริเวณสวนยางพาราของประชาชนขณะที่กำลังเข้าไปกรีดยางในสวนของตนเอง บ้านโคกโก ต.โต๊ะเด็ก อ.สุไหงปาดี จว.นราธิวาส เบื้องต้นมีหญิงอายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่รักษาตัว

ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ EOD รวมถึงเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดกั้นเส้นทางก่อนเข้าจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นซ้ำอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ EOD ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป


เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บและขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยได้สั่งการให้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่ให้เป็นอย่างดี รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ทราบถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแส
ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้