ผบ.ตร. ชื่นชม ตร.บางซื่อ ช่วยเหลือ 2 เด็กชาย ถูก “วิน จยย.ผี” ลวงกรรโชกทรัพย์

โฆษก ตร. เผย “ผบ.ตร.” ชมเชย ตำรวจ สน.บางซื่อ ช่วยเหลือ 2 เด็กชาย ถูก “วิน จยย.ผี” ลวงกรรโชกทรัพย์ “รอง ผกก.ป.ฯ” ติดตามดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมช่วยออกค่าใช้จ่าย เด็กชายประทับใจ คิดไม่ถึงเจอตำรวจแบบนี้

กรณีตำรวจ สน.บางซื่อ นำโดย พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ ได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 พี่น้อง ที่ถูกผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน ใช้อุบายกรรโชกทรัพย์ ขณะจะเดินทางไปสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อกลับบ้านเกิด ที่ จว.เชียงใหม่ โดยตำรวจ สน.บางซื่อ ได้สืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 คน พูดคุยทำความเข้าใจ และปลอบใจครอบครัวของเด็ก มอบเงินค่าโดยสารรถประจำทาง บริการรับ – ส่งเพื่อให้คลายกังวลเรื่องความปลอดภัย และดูแลค่าอาหาร ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ จนสร้างความประทับใจให้กับเด็กทั้ง 2 คน และครอบครัว เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ต่อเนื่อง วันที่ 1 สิงหาคม 2565

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยถึงกรณีนี้ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจ สน.บางซื่อ ที่ใส่ใจทุกข์ร้อนของประชาชน ให้ความช่วยเหลือเด็กชายทั้ง 2 คน อย่างเต็มที่ ทั้งการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และยังสละเงินส่วนตัว เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้กับเด็กชายทั้ง 2 คนที่ตกเป็นเหยื่อ ช่วยให้คลายความกังวลใจ และยังสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องการอำนวยความยุติธรรมให้กับเด็ก รวมทั้งครอบครัว ซึ่งทำให้ประชาชนมีความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และเชื่อมั่นในการอำนวยความยุติธรรมของตำรวจ

ด้าน พ.ต.ท.วรภัทรฯ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ขณะนำกำลัง ดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงวันหยุดยาว ระหว่าง 28 – 31 กรกฎาคม 2565 ได้พบ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี สองพี่น้อง ชาว จว.เชียงใหม่ เข้ามาร้องทุกข์ต่อตำรวจ ณ จุดแจ้งเหตุประจำสถานีขนส่งหมอชิต โดยเด็กเล่าว่าถูกชายไม่ทราบชื่อ อ้างตัวเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดนัดจตุจักร ออกอุบายพูดจาหว่านล้อมให้ขึ้นรถจะไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต คิดราคาไม่แพง 40 – 50 บาท จึงนั่งซ้อนกันไป โดยเด็กขอให้แวะที่ศูนย์การค้าใกล้ ๆ ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็แจ้งว่ารอได้ เมื่อเด็กทั้งสองกลับออกมาจากศูนย์การค้า ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็พาไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต แต่กลับขอคิดค่าโดยสาร 590 บาท โดยคำนวณตามเวลาที่รอ เมื่อเด็กไม่มีให้ ชายดังกล่าวข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินจะทำร้ายร่างกาย และเรียกตำรวจ เด็กชายทั้ง 2 จึงกลัว ให้เงินไป 270 บาท ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่มีติดตัว และเงินติดในบัญชีธนาคาร

รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ กล่าวว่า เมื่อทราบพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทันที สืบสวนจากเลขบัญชีที่เด็กโอนเงินให้ จึงทราบตัวผู้ก่อเหตุในทันที คือนายขวัญชัยฯ ด้านเด็กทั้งสอง ยืนยันจะเดินทางกลับบ้านที่ จว.เชียงใหม่ เพราะซื้อตั๋วโดยสารไว้แล้ว จึงพาไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ที่ สน.บางซื่อ และนัดหมายให้มาดำเนินคดีภายหลัง ซึ่งขณะนั้นเด็กทั้งสองคน อิดโรย และไม่มีเงินติดตัว ตนจึงมอบเงินให้ 500 บาท เป็นค่าอาหารระหว่างเดินทางกลับบ้าน ระหว่างเด็กเดินทางตนได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นระยะ เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องก็ไม่สบายใจ เกรงว่าเด็กจะได้รับอันตราย จึงพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก และครอบครัว โดยเด็กต้องการคืนความยุติธรรมให้ตนเองตามกฎหมาย

พ.ต.ท.วรภัทรฯ กล่าวต่อว่า เมื่อเด็กพร้อม ตนจึงออกเงินซื้อตั๋วรถโดยสาร ไป – กลับ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ เพื่อให้เด็กเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี ในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 แต่เด็กชายยังกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงส่งตำรวจ สน.บางซื่อ ไปรอรับที่สถานีขนส่ง พามาที่ สน.บางซื่อ สอบปากคำต่อหน้าพนักงานสอบสวน, พนักงานอัยการ และสหวิชาชีพฯ ตามกฎหมาย ก่อนส่งทั้งสองพี่น้องขึ้นรถทัวร์ กลับบ้านที่ จว.เชียงใหม่ ตนเห็นว่าครอบครัวของเด็กฐานะค่อนข้างลำบาก จึงดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และช่วยเหลือค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ประมาณ 4,000 บาท โดยเป็นความตั้งใจที่อยากช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน ที่สู้ชีวิต พยายามหางานทำในกรุงเทพฯ ทั้งที่ยังเด็กมาก และมาโดนรังแก จึงช่วยเหลืออำนวยความสะดวกอย่างเต็มใจ และจัดการด้านคดี อำนวยความยุติธรรมให้

พ.ต.ต.วรภัทรฯ กล่าวว่า ในวันเดียวกันตำรวจ สน.บางซื่อ ได้เชิญตัว นายขวัญชัยฯ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างโดยไม่มีใบอนุญาต หรือ วิน จยย.ผี มารับทราบ 4 ข้อกล่าวหา ฐานเรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคาฯ,ใช้รถผิดประเภทฯ, ไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และกรรโชกทรัพย์ ผู้ต้องหารับว่า เป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้จริง และได้ให้การรับสารภาพ 2 ข้อหา ได้แก่ ใช้รถผิดประเภทฯ และไม่มีใบขับขี่ฯ แต่ขอให้การปฏิเสธในข้อหา เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคาฯ และกรรโชกทรัพย์ โดยขอไปให้การในชั้นศาลฯ
“หลังดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ผมได้โทรศัพท์ไปแจ้งเด็ก ทั้งสองคนดีใจมาก ที่คนร้ายถูกดำเนินคดีแล้ว ขอบคุณตำรวจที่ช่วยเหลือ พ่อแม่ของเด็กก็ดีใจ เขาบอกว่าคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะช่วยเหลือขนาดนี้ ดีกับพวกเขา ขอบคุณตำรวจมาก ๆ ผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ตำรวจ และช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่” รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ กล่าว