ผู้เสียหายนับสิบ รวมตัวแจ้งจับ หนุ่มแสบ หลอกเป็นผู้รับเหมาเชิดเงิน ครึ่งล้าน

กลุ่มผู้เสียหาย10 ราย จาก 14 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ หนุ่มใหญ่วัย 47  ปี ชาวนครปฐม หลังพบว่ามีพฤติกรรมหลอกเป็นผู้รับเหมา โดยจะขอเบิกเงินล่วงหน้าหรือเบิกค่าวัสดุ และเทงานทิ้ง ผู้เสียหายติดตามพบเป็นบัญชีเมีย ลูกน้อง คาดมีเหยื่ออีกเพียบ วอนตำรวจเร่งจับ และขอสื่อช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้เหยื่อที่คาดว่าจะมีอีกมากแจ้งความลากตัวมาดำเนินคดีให้ได้ 


วันนี้ 24 กรกฎาคม 65 ที่ สภ.เมืองนครปฐม ผู้เสียหายรวม 10 รายได้ประสานมายัง พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล  ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความหลังจากถูกหนุ่มอ้างตัวเป็นผู้รับเหมาโดยมีการขอเบิกเงินในการดำเนินการล่วงหน้าจากนั้นจะเชิดเงินโดยไม่สามารถติดต่อได้หรือบางรายก็ถูกบ่ายเบี่ยงและไม่มีการชดใช้เงินคืนให้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดพนักงานสอบสวน หลายนายในการสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งบางรายได้รับผลกระทบหนักเนื่องจากมีหนี้สินติดตัวจาการถูกหลอกในครั้งนี้ 


จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าเหยื่อทั้งหมดที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ ระบุว่าบุคคลที่ได้หลอกเงินไปคือ นายปิยวัฒน์ เอกจีน หรือเด่น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/90 ม.6 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งจะมีพฤติกรรมในการหาลูกค้ารับเหมาก่อสร้างและต่อเติมบ้าน ซึ่งแทบจะทุกรายจะพบว่าช่างรับเหมากำมะลอรายนี้จะมีการเข้ามาประเมินราคาในการดำเนินการ ซึ่งจะมีการขอเบิกเงินล่วงหน้า หรือมีการวางแผนวไปซื้อวัสดุอุปกรณ์มาก่อน โดยหลอกให้ตายใจในการให้หมายเลขบัญชีร้านค้าเพื่อให้ลูกค้าโอนให้โดยตรง ซึ่งมีการจดทะเบียนพาณิชย์ให้เชื่อใจ ซึ่งจะจดในชื่อของ นายปิยวัฒน์ เอกจีน เลขที่ 103 ม.14 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม  โดยวันนี้ที่ทราบมีผู้มาแจ้งความดำเนินคดี 10 ราย และยังมีอีก 4 รายที่ยังไม่ได้มา โดยมีความเสียหายที่กลุ่มผู้เสียหายรวบรวมในวันนี้ ประมาณ 602,000 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแบ่งกระจายสอบปากคำและส่งเรื่องกลับไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุทั้งในพื้น อ.สามพราน อ.กำแพงแสน อ.ดอนตูม รวมถึงอำเภอเมือง ซึ่งมีลักษณะกระทำเป็นขบวนการ โดยยังพบว่ามีการแจ้งควาเอาไว้แล้วหลายท้องที่แต่คดีหมดอายุความ ซึ่งมีอีกส่วนหนึ่งได้ดำเนินในการมอบหมายให้ทนายความฟ้องร้องตามทรัพย์ที่ถูกหลอกไปด้วย 


นางสาวบุปผา ปานวนิชยกิจ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.11 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม บอกว่า บอกว่า กรณีของตนเองได้ถูกหลอกเป็นขบวนการซึ่งมีการให้คุยกับเสียงคนที่เหมือนกับเป็นร้านวัสดุ และเอาบัญชีที่อ้างว่าเป็นแพล้นท์ปูน แต่เมื่อสืบกลับไปก็เป็นบัญชีเมียบ้าง ลูกน้องบ้าง ซึ่งอยากให้สื่อช่วยติดตามอีกทางหนึ่งเพราะเขามาหลอกเงินเราไป เพราะเป็นเงินที่ได้จากการทำงานมาโดยสุจริต โดยสูญเงินไป 43,000 บาท


ส่วน นายสุพจน์ เอื้อจิตสุรกุล อายุ 54 ปี ชาวอำเภอนครชัยศรี บอกว่า ตนเองก็โดนหลอกทำนองเดียวกันและได้เจรจากันโดยได้บอกว่าจะคืนเงินให้ ซึ่งสูญเงินไปกว่า 200,000 บาท ซึ่งตอนนี้ตนเองและภรรยาทุกข์ใจมากกับการถูกหลอกไปจากการกระทำของบุคคลคนนี้
นางสาวโลมฤทัย แสงโรจน์ไพเดช อายุ 40 ปี 185 ต.สนามจันทร์ ถ.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม ชายที่ชื่อนายเด่นฉ้อโกงรับจ้างทำโรงเก็บน้ำระบบน้ำ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 มีความเสียหาย 12,00บาท ซึ่งได้ถูกหลอกว่าขอประเมินนการทำงานซึ่งขอเบิกเป็นค่าแรงล่วงหน้า ซึ่งได้มาทำงานแค่วันเดียว ซึ่งได้พยายามติดตามแล้วก็ไม่ได้ ซึ่งได้มีการโพสต์ติดตามตัว โดยมาพบว่ามีคนที่ถูกหลอกในทำนองเดียวกันถึง 14 คน และยังมีผู้เสียหายอีกเยอะ ซึ่งตนเองเป็นคนที่โดนรายล่าสุด 


โดยหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น กลุ่มผู้เสียหายได้ยืนยันจะมีการติดตามตัวนายเด่นมาดำเนินคดีให้ได้เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีกและเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่รู้ว่ามีคนโดนหลอก โดยขอให้ทุกคนที่โดนกระทำแบบนี้เข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุไปทั่วพื้นที่จังหวัดนครปฐมซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ในคดีฉ้อโกงไว้ก่อน โดยหากพบความผิดอื่นอีกก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มรวมถึงผู้ร่วมขบวนการโดยมีหมายเลขโทรศัพท์อย่างน้อย 7 หมายเลข ที่เข้าข่ายเป็นทีมงานเดียวกันด้วย