ตำรวจวิสามัญหนุ่มสุพรรณหนีหมายจับข่มขืนเด็ก 2 หมายคาปั๊ม ชาวบ้านขับรถผ่านมาถูกลูกหลง

เมื่อเวลา 21:30 น วันที่ 13 กรกฎาคม ร.ต.อ วิกรม คงทอง รองสว( สอบสวน)สภ. ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย ภายในปั๊มแห่งหนึ่ง ริมถนน ทางหลวง หมายเลข 340  ขาเข้ากรุงเทพฯมหานคร ม.5ต. สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม รายงาน พ.ต.อ จักรพันธ์  โอสถากันต์ ผกก.สภ. ลาดบัวหลวง แพทย์เวร อัยการจังหวัด ปลัดอำเภอ   แพทย์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ลานจอดรถภายในปั๊ม หน้าห้องน้ำ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda Jazz สีดำทะเบียนป้ายแดงก-2596 กรุงเทพมหานคร ภายในรถด้านคนขับพบ ศพนายสาทิส  อายุ39 ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี สวมเสื้อสีขาวคอกลมกางเกงยีนส์ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณเกียร์รถ

สอบถาม พนักงานภายในปั๊ม เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 20.30 นได้มีรถยนต์เก๋งของผู้เสียชีวิตมาจอดอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มจากนั้นประมาณ 15 นาทีสักพักก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คันเข้ามาจอดโดยไม่ได้พูดอะไรจากนั้นทาง คนที่อยู่ในรถเก๋งก็ยิงปืนออกมา 1 นัดจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิง สวนเข้าไปภายในรถละมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจนมาทราบว่าคนในรถนั้นถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในที่เกิดเหตุ และไม่ให้ข้อมูลใดๆทั้งสิ้นผู้สื่อข่าว รอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเสร็จนานกว่า 3 ชั่วโมงก็ยังไม่เปิดเผยข้อมูล แม้กระทั่งอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวนกระสุนปืนที่ยิงออกไปกี่นัด ได้เพียงข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวที่วิสามัญ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ติดตามคนร้ายซึ่งมีหมายจับ ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน2หมาย ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร

ต่อมาขณะเดียวกันแม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุแต่ถูกกันไม่ให้เข้าไปดูลูกชายศพและให้รออยู่ด้านนอก

ด้านแม่ (สงวนชื่อนามสกุล)เผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่าตนเองทราบข่าวจากหลานชายก็รู้สึกตกใจมากที่ลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญแต่ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไรเนื่องจากยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพูดคุยด้วยพร้อมเผยลูกชายได้แยกออกจากที่บ้านและไปและไปเปิดร้านขายยางเปอร์เซนซึ่งปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกับลูกชายจึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นส่วนเรื่องที่ลูกชายโดนหมายจับ ก็พอจะรู้บ้างส่วนอาวุธปืนก็ยอมรับว่าลูกชายจะพกติดตัว

  ในเวลาต่อมามีชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้ามาโวยวายกับเจ้าที่ตำรวจหลังถูกลูกหลงถูกวิถีกระสนปืนยิงเข้าตัวรถ นาย โอม คนขับรถยนต์ Isuzu ป้ายแดงพร้อมเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน 3 คน ขับรถมาจอดบริเวณภายในปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าพบกับพนักงานสอบสวนถึงสาเหตุที่รถของตนเองนั้นถูกอาวุธปืนยิงเข้าประตูด้านฝั่งคนนั่งข้างคนขับ จนเกือบจะเสียชีวิต

นายโทนอายุ 26 ปี  เผยว่าตนเองพร้อมเพื่อนนั่งมาด้วยกัน 3 คนกลับจากการทำบุญ ต่างจังหวัดและกำลังเดินทางกลับจังหวัดนครปฐมพอผ่านถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นบริเวณประตูรถเพื่อนที่ขับมาด้วยกันก็ตกใจ นึกว่าถูกปล้น พยายามขับรถเลยผ่านปั๊มแล้วไปจอดห่างจากจุดเกิดเหตุจากนั้นก็ลงมาตรวจสอบก็พบว่ารถตัวเองถูกวิถีกระสุนปืนยิงเข้าใส่บริเวณประตูจากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกยิง และ ขับรถกลับมายังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าปั๊มตอนแรกยังไม่ทราบว่ามีการวิสามัญคนร้าย กระทั่งมาทราบจากชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ว่ามีการวิสามัญคนร้าย ที่อยู่ภายในปั๊ม ซึ่งพอรู้เรื่องราวทางพนักงานสอบสวนและทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงจะทำการตรวจสอบวิธีกระตุ้นของรถตนเองโดยการผ่าแต่ตนไม่ยอมเพราะเนื่องจากรถเพิ่งออกมาใหม่และถ้าผ่าพิสูจน์คืนนี้ตนเองจะต้องเสียเวลาเพราะจะต้องทำงานเสียรายได้ไม่คุ้ม จึงขอนัดเป็นพรุ่งนี้แต่ถ้าหากจะทำการผ่าตนเองก็จะต้องอยู่ดูในเหตุการณ์ หากเป็นของคนตายตนเองก็อาจจะไม่เรียกค่าเสียเวลาก็ได้แต่หากเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยที่ตนเองขาดรายได้ไป แต่สำหรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองมองว่า ผู้ต้องหาคดี ล่วงละเมิดทางเพศหญิงต่ำกว่าอายุ 15 ทางเจ้าหน้า ตำรวจไม่น่าถึงจะขั้นต้องวิสามัญผู้ต้องหาในจุดที่ตำรวจยิงเป็นจุดที่ชุมชนเสี่ยงต่อให้ประชาชนถูกลูกหลง ซึ่งยังถือว่า โชคดีที่ตนเองหรือเพื่อนที่นั่งมาในรถไม่ถูกกระสุนปืนและถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านมาอาจจะไม่โชคดีเหมือนอย่างตนก็เป็นได้