‘บิ๊กโจ๊ก’ แจ้งผลการลบประวัติด้วยตัวเอง ตามโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน

ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” ซึ่งเป็นการดำเนินการคัดแยกประวัติและลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาที่ กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้มีการจัดเก็บลงในฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากร รวมทั้งสิ้นกว่า 12.4 ล้านคดี กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องหรือศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง เพื่อคัดแยกรายชื่อของผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นออกจากทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกโดยที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่ต้องมายื่นคำร้องต่อกองทะเบียนประวัติอาชญากรเพื่อคัดชื่อออกเอง เพราะจะเป็นการสร้างภาระความเดือดร้อนแก่ประชาชน และเป็นการสร้างโอกาสกลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นปกติให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 มิ.ย.65) เวลาประมาณ 15.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังชุมชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในพื้นที่ลุมพินี เพื่อมอบบันทึกแจ้งผลการลบประวัติอาชญากรรมให้กับ นายสมชาย (นามสมมติ) ทราบ โดยนายสมชายฯ เคยต้องโทษในคดีอาญา ตั้งแต่ปี 2562 ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ต่อมาคดีดังกล่าวพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว เข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนด ทางกองทะเบียนประวัติอาชญากรจึงได้ดำเนินการลบประวัติและออกหนังสือแจ้งผลการดำเนินการให้นายสมชายฯ ทราบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงถือโอกาสนี้ในการมามอบผลการลบประวัติให้กับนายสมชายฯ ทราบด้วยตนเอง หลังได้รับการแจ้งผลดังกล่าว นายสมชายฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ตนเองสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่มีบันทึกว่าตนเองมีประวัติอาชญากรรมอยู่อีก ซึ่งนายสมชายฯ ต้องทนอยู่กับความทุกข์ใจในคดีที่ตนเองรู้สึกว่าไม่ได้กระทำความผิด และขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่คืนชีวิตให้กับตน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้พบกับประชาชนเพื่อรับทราบเสียงสะท้อนของโครงการดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามประชาชนที่ได้รับการลบประวัติตามเกณฑ์ดังกล่าวมีความรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสในการกลับคืนสู่สังคม เปิดโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีประวัติอาชญากรรม ดังนั้น การดำเนินโครงการดังกล่าวต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ในสังคมได้