ผบ.ตร.พร้อมผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามคดีฆ่าเจ๊หญิง หลังจับเพิ่มผู้จ้างวานฆ่าได้ 1ราย

ผบ.ตร.พร้อมผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามคดีฆ่าเจ๊หญิง หลังจับเพิ่มผู้จ้างวานฆ่าได้ 1ราย เบื้องต้นยังให้การปฎิเสธ และ 4 ผู้ต้องหาทีมสังหารเจ๊หญิง ปมเกิดการจากขัดแย้งจากการเปิดบ่อนการพนัน


จากกรณีสองคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ลงมือก่อเหตุใช่อาวุธปืนขนาด.38 ยิงใส่ น.ส.จิตตภัส เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/20 ม.3 ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถคาร์แคร์ เลขที่ 124/14 หมู่ที่ 1 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเหมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา


ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วันชัย สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวนายสมหมาย เรืองเจริญ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 1 ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับเลขที่ 261/65 ลงวันที่ 22 มิ.ย.2565 ในข้อหา “เป็นผู้ใช้จ้างวาน ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน” หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้จับกุมตัวนายธัญญะ หรือบอมบ์ วิชัยดิษฐ อายุ 31 ปี มือปืน , นายณัฐพงษ์ หรือเอ็ม สุวรรณน้อย อายุ 31 ปี คนขับรถ, นายรณกร หรือวัฒน์ วิชัยดิษฐ อายุ 49 ปี จัดหามือปืน, และนายอรรถพร หรือเบ็ด นพคุณ อายุ 68 ปี ผู้รับงานและเป็นคนชี้เป้า 4 ผู้ต้องหาทีมสังหาร น.ส.จิตตภัส หรือเจ๊หญิง เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 45 ปี เสียชีวิต
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ทั้ง 4 รายให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุยิง น.ส.จิตตภัส หรือเจ๊หญิงจริง โดยนายนายธัญญะ หรือบอมบ์ มือปืนได้รับค่าจ้างจำนวน 1.2 แสนบาท ซึ่งประวัติมือปืนเคยอยู่ในสถานพินิจ ในคดีพยายามฆ่า และได้รู้จักกับกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ ขณะที่ย้ายมาอยู่ในเรือนจำ และได้มาร่วมกันก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การซัดทอดว่านายสมหมาย เป็นผู้ว่าจ้างและนำเงินจำนวน 1 ล้านบาทมาให้ โดยมีนายอรรถพร หรือเบ็ด เป็นผู้จัดหาอาวุธปืนมาให้และเป็นคนชี้เป้าในที่เกิดเหตุ


ในส่วนของนายสมหมายเบื้องต้นยังให้การปฎิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานอย่างหนาแน่น ทั้งพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ที่จะสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด


สำหรับฉนวนเหตุนั้นเกิดจากการจัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่องการเล่นการพนัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายและนายสมหมายผู้จ้างวานเคยมีปัญหากัน แต่ได้เคลียร์ กันแล้ว แต่อาจเกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการทำบ่อนการพนันกันอีก ทั้งนี้จะต้องขอเวลาสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มถ้าหากมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป