ตำรวจ กก.ดส. จับกุมขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ตรวจสอบพบพฤติการณ์การค้าประเวณีดังกล่าว ผ่านทางบัญชีของแอพพลิเคชั่น LINE ชื่อ Q-Q , มีนบุรี และ THE LOVE CLUB  ต่อมาวันที่ 7 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ทำการล่อซื้อค้าประเวณี ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ Q-Q , มีนบุรี และ THE LOVE CLUB โดยได้มีการนัดหมายพบกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณย่าน แขวงบางชัน เขตคลองสามว กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่รีสอร์ทดังกล่าวตามที่นัดหมาย พบ หญิงสาวสัญชาติลาว จำนวน 5 คน ไม่พบเอกสารประจำตัว และจากการตรวจสอบ พบว่าในกลุ่มหญิงสาวสัญชาติลาวดังกล่าว มีหญิงสาวที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน ได้แก่ ด.ญ.น้ำหวาน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี

จากการซักถามปากคำเด็กหญิงทั้ง 2 ราย ผ่านกระบวนการคัดแยกเหยื่อ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเด็กหญิงทั้งสองได้ถูกติดต่อชักชวนมาจากประเทศลาวเพื่อมาค้าประเวณีในประเทศไทย เดินทางโดยการนั่งเรือข้ามฝั่งมาทางลำน้ำโขง และจะมีคนมารอรับบริเวณพื้นที่ อ.ปากชม จว.เลย จากนั้นจะขับรถมาส่งที่ รีสอร์ทดังกล่าวเพื่อค้าประเวณีแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ เจ้าหน้าที่ กก.ดส. จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีเพื่อออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการ รวม 4 ราย ดังนี้1. น.ส.เกศราฯ อายุ 35 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “มีนบุรี” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณี  2. น.ส.ณัชดาภาฯ อายุ 36 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “Q-Q” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณ 3. น.ส.ณัฐนันท์ฯ อายุ 28 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “THE LOVE CLUB” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณี 4. นายบุญญฤทธิ์ฯ อายุ 40 ปี บุคคลที่ขับรถไปรับเด็กหญิงสัญชาติลาวจากพื้นที่ อ.ปากชม จว.เลย


มาส่งที่รีสอร์ทในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคในความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำกับบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีและร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี”

ต่อมาในวันที่ 29 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ร่วมกันปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว โดยสามารถจับกุมได้ครบทั้ง ๔ ราย นำส่ง สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดในขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

  บช.น. ขอนำเรียนพี่น้องประชาชนว่า การป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์นั้น เป็นภารกิจสำคัญ ที่ทางตำรวจนครบาลได้มีการเร่งรัดปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่เป็นภัยร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ความสงบสุข และศีลธรรมอันดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะได้เร่งรัด และกำชับข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบให้หมดสิ้นไป หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่