พบแล้ว ‘คุณวิว’ พลเมืองดี เกาะรถสกัดแท็กซี่ที่ถูกหนุ่มคลั่งขโมย

จากกรณีที่มีการเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อติดตามหานายนพดล พิมพ์ดี หรือวิวพนักงานร้านอาหารที่เป็นพลเมืองดีกระโดดเกาะท้ายรถแท็กซี่ที่ชายคุ้มคลั่งก่อเหตุขโมยมาจากหน้าปากซอยพระราม 3 60 เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ก่อนที่ชายคุ้มคลั่งจะกระโดดลงบริเวณกลางสะพานพระราม 3 แต่เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือขึ้นจากน้ำอย่างปลอดภัยแต่พลเมืองดีที่มีการเกาะท้ายรถไปได้หายตัวไปตั้งแต่เกิดเหตุและทางเจ้าของร้านได้ลงพื้นที่ติดตามตัวลูกน้องคนสนิทและตัดสินใจเฝ้าอยู่บริเวณใต้สะพานพระรามสามตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้

ซึ่งขณะที่สื่อมวลชนอยู่ระหว่างการเฝ้าสังเกตการณ์รวมถึงเจ้าของร้านยังคงรอเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำชุดค้นหาใต้น้ำมาทำการค้นหาร่างของพลเมืองดีตามจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดตกเนื่องจากทางตำรวจฝ่ายสืบสวนพบหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดบนสะพานพบว่ามีการกระแทกขอบสะพานทำให้นายนพดลกระเด็นตกลงจากสะพานพระรามสามระยะห่างจากขอบตลิ่งด้านล่างประมาณ 20 เมตร แต่ขณะที่อยู่ระหว่างการเฝ้ารอชุดอุปกรณ์ ทีมข่าวที่อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามได้สังเกตุเห็นวัตถุคล้ายร่างมนุษย์ลอยขึ้นอย่างช้าๆบริเวณตรงหน้าซึ่งอยู่ห่างจากสื่อมวลชนไม่ถึง 10 เมตร เมื่อเจ้าที่ฝ่ายสืบสวนที่อยู่ในพื้นที่ได้เข้าไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ก็พบว่าร่างที่ลอยขึ้นต่อหน้าสื่อมวลชนคือร่างของนายนพดลหรือวิวโดยเจ้าของร้านมีการยืนยันว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจริง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอแพทย์นิติเวชเข้าร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง

นายศักดิ์ดา ถวัลวรกิจ เจ้าของร้านบุหลันดั้นเมฆ ระบุกับทีมข่าวระหว่างที่สังเกตการร่างที่ลอยขึ้นมาต่อหน้าโดยยืนยันว่าร่างที่พบเป็นร่างของนายนพดลลูกน้องคนสนิทของตนเองเพราะสีผมลักษณะการแต่งกายตรงกับชุดสุดท้ายที่ลูกน้องคนสนิทหายไปเมื่อคืน เมื่อทีมข่าวสอบถามว่าก่อนหน้านี้ได้มีการภาวนาหรืออธิฐานอะไรหรือไม่เพราะลักษณะที่ศพลอยขึ้นเป็นการลอยขึ้นมาในบริเวณที่สื่อมวลชนและเจ้าของร้านเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ขณะที่ในแม่น้ำเจ้าพระยามีกระแสน้ำที่ค่อนข้างไหลเชี่ยว จึงเป็นไปได้ยากที่ศพจะโยงอยู่กับที่และลอยขึ้นมาทางเจ้าของร้านระบุว่าก่อนหน้านี้ได้มีการไปขอให้พบลูกน้องคนสนิทต่อศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุแต่ไม่คิดว่าการพบลูกน้องคนสนิทจะเป็นการพบในลักษณะแบบนี้ส่วนต่อจากนี้ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรยอมรับว่าเสียใจเพราะอยู่กันมานานหลายปี ก่อนที่จะขอไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนและยังคงอยู่ในอาการเสียใจอยู่เพียงลำพัง