จับกุม 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง ผู้เสียหายจำนวนหลายราย

ชุดลาดตระเวนออนไลน์ PCT 5 และนักสืบ 5 G จับกุม 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง เหยื่อไปรับรถไม่พบเต้นท์รถตามที่โพสต์ พบเพียงบ้านร้าง ผู้เสียหายจำนวนหลายราย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้มีความพร้อมในการรับมืออาชญากรรม ที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G และให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของ ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 และนักสืบ 5 G สืบ ภาค 2ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊คค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้ทำงานเสริมในช่วงโควิด-19 ระบาด พบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู เหยื่อสนใจรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ประกาศขายในราคา 140,000 บาท จึงติดต่อขอจ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท และวันรับรถเดินทางไปที่เต้นท์รถยนต์ดังกล่าวที่โพลต์ไว้ ปรากฏว่าพบเป็นบ้านร้างไม่มีคนพักอาศัย แทบเป็นลม จึงรายงานให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ PCT ( ผอ.ศอปส.ตร.) ทราบได้สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยใช้งานนักสืบ 5 G ตามโครงการของ ผบ.ตร.เป็นตัวหลักในการสืบสวน


เมื่อวันที่13 พ.ค. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศอปส.ตร. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.1 บก.ปส.3 พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส. ภ.2 ร.ต.อ.ภัสส์กร เฉลียวบุญ ร.ต.อ.วุฒินันต์ คงดี, ร.ต.อ.ปรมา ปราณี ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ต.ประวิทย์ กองชุมพล สว.สส.สน.ดินแดง ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวน.ส.ปัทมา มีผลกิจ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 13/2 ม. 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 894/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 111/173 หมู่บ้านวานา คาซา ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยองเมื่อวันที่13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น.พบของกลางโทรศัพท์และสมุดบัญชีธนาคารอีก 3 บัญช นางสาวชยาภา วงค์คำภา 19 ปี ที่อยู่ 137 ม. 7 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 893/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด พบของกลางโทรศัพท์ เมื่อวันที่13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.30 น. โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น.ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ที่โรงเรียนอาชีวะย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊ค ค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้งานพบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” และไอดีไลน์ “tcar168” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู ผู้เสียหายเห็น มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ทะเบียน มหาสารคาม ประกาศขายในราคา 140,000 บาท สนใจจึงติดต่อ ขอต่อรองราคาจนฝ่ายผู้ขายลดราคาให้คงเหลือ 110,000 บาท โดยฝ่ายผู้ขายให้จ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท ที่เหลือ 100,000 บาท ให้จ่ายที่เต้นท์ในวันรับรถ ผู้เสียหายซึ่งได้แอดไลน์เป็นเพื่อนผ่านไอดีไลน์ดังกล่าวแล้ว โดยผู้ขายให้พิกัดที่ตั้งของเต้นท์ขายรถยนต์ดังกล่าวคือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง โดยให้โอนเงินค่ามัดจำเข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหายหลงเชื่อตามที่มีการโฆษณาขายรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 15.12 น.ของวันเดียวกัน จึงโอนเงินจำนวน 10,000 บาท จากบัญชีเงินฝาก ของผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเข้าบัญชีดังกล่าว เมื่อโอนเงินเสร็จแล้วก็ส่งสลิปการโอนเงินให้กับฝ่ายผู้ขายทางไลน์ โดยผู้เสียหายได้แจ้งกับฝ่ายผู้ขายว่า จะไปรับรถยนต์คันดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ฝ่ายผู้ขายรับทราบ โดยให้ผู้เสียหายไปตามสถานที่ที่แชร์ที่ตั้งให้กับผู้เสียหายไว้ดังกล่าว ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม 2565 ผู้เสียหายกับภรรยาได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่ จว.ระยอง เมื่อไปถึงบริเวณพิกัดที่ฝ่ายผู้ขายให้ไว้คือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง ปรากฏว่า ไม่มีเต้นท์รถยนต์แต่อย่างใด เป็นห้องเช่าสภาพเก่า บ้านปิดไว้ มีใบไม้รกหน้าบ้าน ไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงโทรศัพท์หาฝ่ายผู้ขาย ปรากฏว่าโทรติด แต่ไม่มีผู้รับสาย จากนั้นฝ่ายผู้ขายก็ปิดเครื่องไป ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายได้สอบถามร้านขายของชำบริเวณดังกล่าว จึงทราบว่า บ้านดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย ในวันเดียวกันนั้นได้มีผู้คนมาสอบถามเหมือนกันกับผู้เสียหายประมาณ 10 กว่าคน น่าจะถูกหลอกเหมือนกัน ผู้เสียหายกับภรรยาจึงทราบว่า ถูกหลอกให้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจนต้องสูญเงินไป 10,000 บาท จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง ซึ่งเป็นท้องที่ที่ผู้เสียหาย โอนเงินให้กับคนร้าย ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์และมอบคดีให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมขอความช่วยเหลือกับชุดลาดตะเวนออนไลน์สืบภาค 2 และ PCT 5


จากการสอบถามเบื้องต้นนางสาวปัทมาฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่น.ส.ปัทมาฯยอมรับว่าเป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการหลอกขายเอาเงินมัดจำจริง ส่วน น.ส.ชยาภาฯ ให้การยอมรับว่าได้ รับจ้างเปิดบัญชีจากบุคคลอื่นเพื่อนำไปทำธุรกรรมต่างๆ จริง ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 /หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 กล่าวว่า “ ช่วงนี้มีคดี
หลอกขายสินค้าต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ระบาดอย่างหนัก จึงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางออนไลน์ให้สิ้นซาก และต้องอยู่ไม่เป็นสุขตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เพราะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และผมอยากฝากถึงผู้กระทำความผิดว่าไม่มีทางรอดจากการถูกจับกุม ยิ่งโกงเยอะเท่าไร ยิ่งติดคุกนานเท่านั้น”