ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง พื้นที่ชายแดนฝั่งตะวันออก

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง พื้นที่ชายแดนฝั่งตะวันออก วางหลักปฏิบัติ 9 ประการ เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง และรองรับการเปิดประเทศ

วันที่ 5 พ.ค.65 ที่ ตม.จว.ชลบุรี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกรณีสถานการณ์ด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน เนื่องจากการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง สอดส่องดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคง สกัดกั้น สืบสวนปราบปรามขยายผลเครือข่ายขบวนการกระทําความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนย้ายและการค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าประเทศ นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.(มค) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามและกำชับการปฏิบัติหน่วยตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบในงานความมั่นคง โดยในวันนี้ เวลา 08.00 น. ตน พร้อมด้วย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม รอง ผบช.สยศ.ตร., พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.ศ. และ พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตม.จว.จันทบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติในการเดินทางเข้าออกประเทศในช่องทางบก รองรับนโยบายการเปิดประเทศของ ศบค. และได้มอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด – 19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และหน่วยงานอื่นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ต่อมาในเวลา 14.15 น. ได้เดินทางมา ตรวจเยี่ยม ตม.จว.ชลบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ มาตรการทางสาธารณสุข และมาตรการความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าในพื้นที่ จว.ชลบุรี และได้มอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด – 19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ชลบุรี

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวต่อว่า ได้กำชับสั่งการให้หน่วยถือปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ตร. ตามแนวทางการปฏิบัติ 9 ประการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ดังนี้

  1. ให้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และ ตร. ในการบริการและอำนวยความสะดวกแก่คนต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ
  2. ให้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่จะเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร ให้ตรวจสอบหนังสือเดินทาง การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตลอดจนบัญชีคนเฝ้าระวัง หมายจับต่าง ๆ ก่อนอนุญาตให้เข้าออกราชอาณาจักร และการกระทำความผิดในรูปแบบต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. โดยให้ประสานงานกับหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานข้างเคียงอย่างใกล้ชิด
  3. การผลักดันส่งกลับคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักร ในกรณีของคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) และคนต่างด้าวที่ถูกเพิกถอนวีซ่า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ สตม.กำหนดไว้ โดยเคร่งครัด
  4. ให้ดำเนินการตามแนวทาง และมาตรการที่กำหนด กรณีพบบุคคลเฝ้าระวัง มีหมายจับต่างประเทศ หรือหมายจับตำรวจสากล ให้แจ้ง ตร.ทราบ ผ่าน ตท. เพื่อสั่งการต่อไป
  5. ให้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง และแรงงานสัญชาติเมียนมา ดำเนินการภายในกรอบเวลาตามที่ศูนย์พิจารณาให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่ออนุญาตให้ทำงานและออกหนังสือรับรองสถานะบุคคล (Certificate of Identity : CI)
  6. ให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการและสอดคล้องตามมาตรการทางสาธารณสุข
  7. หากมีนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่จะเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรจำนวนมาก ให้ปรับแผนเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระหนักว่า งานตรวจคนเข้าเมือง เป็นงานบริการและสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ กรณีมีนักท่องเที่ยวมาติดต่อราชการจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ให้บริการต้องมีจิตแห่งการบริการ (Service mind) สอบถามพูดคุย ให้คำแนะนำและการช่วยเหลือ เพื่อแสดงออกถึงการใส่ใจและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ กรณีที่ทำการของหน่วยใดที่พิจารณาแล้วยังมีความไม่เหมาะสม ให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดจัดหาสถานที่ใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาใช้บริการ มิให้ปรากฏภาพการนั่งรอในเต็นท์ การยืนต่อแถวยาว เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ
  8. ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง ระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ พฤติกรรมการแสดงออกต่าง ๆ ตลอดจนห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งสิ้น
  9. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ดูแล เอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหาหนี้สินต่าง ๆ สวัสดิการที่พึงจะได้รับแก่ตนเองและครอบครัว ตลอดจนมาตรการป้องกันการติดเชื้อ โควิด – 19 การจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ทุกนาย

และขอขอบคุณหน่วยร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยตำรวจทุกหน่วย กองกำลังชายแดนฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและหน่วยสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมบูรณาการทำงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ ให้บรรลุผลสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาล