“รองฯ รอย” สั่งรวบหนุ่มแสบ พบประวัติ เคยก่อเหตุโชกโชนบังคับเด็กชาย ถ่ายคลิปโป๊ แล้วแบล็คเมล์ กดดันรีดทรัพย์ จนเด็กยิงตัวตัวตาย

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.และผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา สภ.สารภี ได้รับแจ้งมีเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตคือ เด็กชายเจ(นามสมมุติ)อายุ 17 ปี ที่อยู่ 38 หมู่ที่ 4 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สาเหตุแรงจูงใจให้ผู้เสียชีวิตลงมือก่อเหตุ มาจากการถูกข่มขู่ให้ผู้เสียชีวิตโอนเงินให้กับคนร้ายแลกกับการที่คนร้ายจะไม่นำคลิปวีดีโอลับ(คลิปโป๊) ของผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่ จนกระทั่งเป็นสาเหตุให้ผู้เสียชีวิตลงมือก่อเหตุยิงตัวเองนั้น โดยได้เขียนจดหมายลาตายปรากฏตามข่าว นั้น

ซึ่งตน ได้สั่งการ ให้ ชุด TICAC ศพดส.ตร.ลงไปเร่งรัด ทำการสืบสวน ร่วมกับ ภ.5โดยได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และภาพกล้องวงจรปิดของเจ้าของบัญชี จนได้ภาพขณะกดเงินหลังจากผู้เสียหายโอนเงินไป และทำการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิด คือ นายฉันทพัฒน์ อนันตวงศ์ อายุ 26 ปี เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ที่อยู่ 158 หมู่ 11 ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และให้ พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานร้องขอต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับบุคคลดังกล่าว ในความผิดฐาน “รีดเอาทรัพย์, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 187/2565 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2565

ในวันนี้ (17 มีนาคม 2565) ชุด TICAC ศพดส.ตร.สืบสวนจนทราบว่า นายฉันทพัฒน์ฯ ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกับ บช.น.ช่วยตรวจสอบและหาข่าวจนทราบว่า นายฉันทพัฒน์ ฯ พักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าทำการติดตามจับกุมนายฉันทพัฒน์ฯ พร้อมของกลาง อยู่ระหว่างนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สารภี สืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวการกระทำความผิดดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้งซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน

มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้(ศุกร์ 18มี.ค.65) ผอ. ศพดส.ตร. ได้มอบหมายให้พล.ต.ท. สุรเชษฐ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผอ.ศพดส.ตร. เดินทางลงพื้นที่เพื่อสอบสวนผู้ต้องหารายดังกล่าวด้วยตัวเอง แถลงข่าว และ ขยายผลว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวกับเด็ก และสตรีรายผู้อื่นๆอีกกี่ราย เพื่อมาเป็นพยานหลักฐานมัดตัว ให้มีบทลงโทษทางกฏหมายที่หนักสุดต่อไป