ศพดส.ตร. ประสานกัมพูชาช่วยคนไทย พร้อมเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินคดี

จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทยเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด ๑๙ ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ประสานงานกับสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือคนไทยในเมืองสีหนุวิลล์ กลับมาได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสิ้น ๕๖ คน

หลังจากได้รับสั่งการจาก ผบ.ตร. ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้เป็นการด่วน จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าขบวนการดังกล่าวมีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์ จะมีการลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่ามีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร ได้มีการว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ

โดยกลุ่มผู้เสียหายให้การว่า พวกตนเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่ตึกแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา บังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย หลังจากทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน จึงได้รวมตัวกันแจ้งกับนายจ้างขอเดินทางกลับ แต่ได้ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการเรียกร้องเอาค่าไถ่ตัวรายละ ๓,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๑๐๐,๐๐๐บาท คนไทยทั้งหมดถูกกักขัง ให้อดอาหาร และทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งขู่ว่าจะเอาไปขายต่อให้นายจ้างเจ้าอื่น พวกตนจึงพยายามติดต่อญาติ เพื่อขอความช่วยเหลือจากทางการไทย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กัมพูชาร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา ช่วยเหลือคนไทยออกมาได้อย่างปลอดภัย

ที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยในวันนี้ ศพดส.ตร. ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จากการประชุมพบว่าหลายคดีมีความคืบหน้าไปมาก คนไทยที่เดินทางกลับมาให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้มีการสั่งการในที่ประชุมให้มีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเฉียบขาด

ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้ทราบถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปไม่ตกเป็นเหยื่อ นอกจากนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ที่ https://www.facebook.com/  antihumantraffickingpolice หรือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โทร ๑๕๙๙ เพื่อให้การช่วยเหลือและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป