รอง ผบ.ตร. ระบุศาลสั่งริบรถฮาเลย์ของผู้ที่ขับขี่รถประมาทหวาดเสียวกลางถนนเยาวราช

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พลตำรวจตรี สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พันตำรวจเอก นิติวัฒน์ แสนสิ่ง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 แถลงผลการกวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮาเลย์ปล่อยมือกลางถนนเยาวราช ศาลสั่งริบรถของกลาง

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากคลิปวีดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ โพสคลิปวิดีโอชายขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮาเล่ย์ เดวิดสัน โดยไม่ใช้มือบังคับ พร้อมทั้งยืนบนตัวรถกางแขนทั้งสองข้างโบกมือไปมา ขับขี่มาตามถนนเยาวราช มุ่งหน้าแยกเฉลิมบุรี ในช่วงกลางดึกของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สร้างความอันตรายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาอย่างมาก พันตำรวจเอก พนม เชื้อทอง ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดได้คือ นาย กฤษฎาภร อายุ 27 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับขี่ตามคลิปวีดีโอที่ปรากฎจริง

ต่อมาให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 ดำเนินคดีผู้ต้องหาในข้อหา1. ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน 2. ขับขี่รถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดาหรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้าน ได้พอแก่ความปลอดภัย 3. ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 4. ใช้รถที่จดทะเบียนแล้วแต่ยังมิได้เสียภาษีประจำปีสำหรับรถให้ครบถ้วนถูกต้องภายในเวลากำหนด และใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายตามที่กฎหมายกำหนด

ต่อมา ได้นำตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน ศาลมีคำพิพากษาปรับ 10,600 บาท รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง และศาลสั่งริบรถจักรยานยนต์ของกลาง

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาการแข่งรถในทางเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก หากท่านใดพบเบาะแสการขับขี่รถในลักษณะประมาทหวาดเสียว ,ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น และการมั่วสุมรวมตัวแข่งรถในทาง สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 หรือสามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทางเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้

ที่มา Police Radio (Thailand)