“บิ๊กโจ๊ก” สั่งลุยจับกุมคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านแลกเงิน

จากกรณีที่ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกชิงทรัพย์ตู้แลกเปลี่ยนเงิน ได้ทรัพย์สินไปเป็นเงินสดสกุลต่างชาติ คิดเป็นเงินไทยมูลค่า 226,918 บาท และเงินสดสกุลไทยอีก 3,418 บาท ก่อนหลบหนีไป เมื่อวันที่ 13 ก.พ.65 เหตุเกิดบริเวณตรงข้าม ห้างบิ๊กซีสาขาจังซีลอน ถ.ผังเมืองสาย ก ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ป่าตอง จว.ภูเก็ต ตามที่ทราบแล้ว นั้น

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจดังกล่าว โดยเร่งด่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย  เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.บัณฑิต ขาวสุธรรม ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ     พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง ให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และคนร้ายใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุดังกล่าว

พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจค้นและยึดของกลางได้หลายรายการ ประกอบด้วย เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า และถุงมือที่นายเสกสรรค์ฯ สวมใส่ขณะก่อเหตุ รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้น แบบไทยประดิษฐ์ขนาด เบอร์ 9 จำนวน 1 กระบอก และสามารถติดตามทรัพย์สินกลับมาได้อีกจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 9 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น

พฤติการณ์วันเกิดเหตุ คนร้ายได้สวมเสื้อฮู้ดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ใส่ถุงมือสีดำ สวมหมวกโม่งสีดำ จากนั้นไปซุ่มอยู่ที่บริเวณพื้นที่ด้านหลังร้านแลกเงินที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นพื้นที่ร้าง ไม่มีแสงสว่าง จากนั้นได้ตรงไปที่ประตูด้านหลังร้านแลกเงิน แล้วใช้อาวุธปืนทุกประตูกระจกของร้านดังกล่าว จากนั้นได้เข้ามาภายในร้านและใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานประจำร้านให้ส่งมอบเงินให้ ก่อนวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าด้านหลังร้าน

โดยการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า “คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความอุกอาจมาก เนื่องจากคนร้ายมีการใช้อาวุธปืนเพื่อข่มขู่ให้เหยื่อกลัว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป จากนี้จะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่ให้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขให้ได้มากที่สุด”