รวบแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ส่งข้ามแดน ก่อเหตุหลายพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี-ระยอง ได้รถจักรยานยนต์ของกลางกว่า10 คัน

พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์  ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรพันธุ์  กิตติสิริพรกุล  รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง เร่งรัดเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ต่อม พ.ต.อ.จักรพันธุ์  กิตติสิริพรกุล สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยพงษ์  แสงพงษ์ชัย  ผกก.สภ.ปลวกแดง ทำการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่

โดยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ชุดสืบสวน สภ.ปลวกแดง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ชัยพงษ์  แสงพงษ์ชัย  ผกก.สภ.ปลวกแดง พ.ต.ท.อานนท์ ตางาม รอง ผกก.สส.สภ.ปลวกแดง  ร.ต.อ.เอกสิทธิ์ พระศรี สว.สส.สภ.ปลวกแดง พร้อมทีมสืบสวน ได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นชายไทยจำนวน 2 คน ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ได้ของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และรถกระบะ จำนวน 1 คัน จากการสืบสวนขยายผลทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาและพวกได้ทำการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จว.ระยอง และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดชลบุรี และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาได้ทั้งหมด 5 คัน โดยมีชายสัญชาติกัมพูชาจำนวน 3 คน เป็นผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาและอยู่ในความครอบครอง จึงได้ดำเนินการจับกุมชายสัญชาติกัมพูชาดังกล่าวในข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

จากนั้นพ.ต.อ.ชัยพงษ์  แสงพงษ์ชัย  ผกก.สภ.ปลวกแดง จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลต่อ เพื่อให้จับกุมผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดและจำนวนเท่าใดเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน ใน ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จว.ระยอง ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่คาดว่ารถร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี จนทราบว่าได้มีการนำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาทั้ง 3 คัน ไปซุกซ่อนในพงหญ้าแห่งหนึ่งในเขตหมู่ 7 ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จว.ระยอง เมื่อเข้าตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ดังกล่าวตามที่แจ้งหาย จึงได้วางแผนซุ่มกำลังไว้เพื่อรอคนร้ายมาเอารถที่จอดซุกซ่อน

จนกระทั่งวันที่ 11 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 03.30 น. มีชาย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ไปจอดและเดินเข้ามายังจุดซ่อนรถ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวจับกุม หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัย สามารถหลบหนีการจับกุมไปพร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คัน ทำให้สามารถจับกุมได้เพียง 2 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน เมื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้โจรกรรมรถมาซ่อนไว้จริง โดยรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่เข้ามาเป็นรถของผู้ต้องหาที่ใช้ในการตระเวนลักรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ส่วนอีก 2 คันเป็นรถที่เพิ่งโจรกรรมมาเมื่อช่วงประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 11 ก.พ.65 เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนขยายผลต่อเนื่องอย่างหนักจนสามารถตามไปยึดรถจักรยานยนต์อีก 1 คันที่หลบหนีไปได้ก่อนหน้า แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมาย ประกอบด้วย นายวาย เสียม อายุ 37 ปี สัญชาติกัมพูชา  นายเต๊าะ เมย อายุ  28  ปีสัญชาติกัมพูชา นายหมับไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 20 ปี  (หลบหนีได้)

ในปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ สามารถทลายแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ส่งข้ามแดนและยึดรถของกลางที่ถูกโจรกรรมไปได้ทั้งสิ้นจำนวน 10 คัน ตัวผู้ต้องหาจำนวน 7 คน เป็นชายสัญชาติไทยจำนวน 2 คน และชายสัญชาติกัมพูชา  5 คน หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งเป็นชายสัญชาติกัมพูชา จะใช้เหล็กแหลมแทงที่คอรถ แล้วบิดเบ้ากุญแจ จากนั้นคนอื่นในทีมจะแบ่งกันทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ  ซึ่งในการปฏิบัติการแต่ละครั้งจะมีนายทุนสัญชาติกัมพูชาเป็นผู้สั่งการว่าต้องการรถประเภทไหน จำนวนกี่คัน จากนั้นแก๊งผู้ต้องหาจะตระเวนหารถจักรยานยนต์ตามที่ได้รับคำสั่ง จากนั้นจะส่งไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง