ปคบ.รวบกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและปลอมเอกสาร หลอกขายถุงมือทางการแพทย์ไปยังต่างประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท

วันที่ 26 ม.ค. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.
พล.ต.ต. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก, พล.ต.ต. อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ,รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 ,พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกันจับกุม เครือข่ายผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและปลอมเอกสาร หลอกขายถุงมือทางการแพทย์ไปยังต่างประเทศ จำนวน 2 ราย คือ

  1. น.ส.ปัณณภัสร์ หรือเอริ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 109/2565 ลงวันที่
    24มกร าคม 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสาร
    สิทธิปลอม, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม
    ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
  2. น.ส.สาวิกา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 110/2565 ลงวันที่ 24 มกราคม 2565

ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกัน
โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2563 ผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งของประเทศไต้หวัน ต้องการซื้อถุงมือทางการแพทย์จากประเทศไทย เพื่อนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าในประเทศต่างๆ จึงได้ติดต่อเจรจาการซื้อ ขายกับ บริษัท แอดวานซ์ นาโน โค้ทติ๊ง จำกัด ซึ่งมี น.ส.ปัณณภัสร์ หรือเอริ และ น.ส.สาวิกา ผู้ต้องหา เป็นกรรมการ โดย น.ส.เอริฯ โดย น.ส.ปัณณภัสร์ หรือเอริ ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่า ตนเองได้รับโควต้าจำหน่ายถุงมือทางการแพทย์ จากบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือทางการแพทย์รายใหญ่ของประเทศไทย โดยมีการปลอม
เอกสารการได้รับโควต้าและเป็นการเป็นตัวแทนจำหน่ายมาดังกล่าวขึ้น เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงซื้อถุงมือทาง การแพทย์จากผู้ต้องหา จำนวน 1,000,000 กล่อง โดยผู้เสียหายได้ทยอยโอนเงินให้ผู้ต้องหาจำนวน 9 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,789,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ จำนวน 86,084,008 บาท ซึ่งผู้ต้องหาตกลงว่าจะทยอยส่งสินค้าให้ โดยในครั้งแรก ผู้ต้องหาได้ส่งถุงมือทางการแพทย์ไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสินค้าถึงปลายทางพบว่า เป็นถุงมือที่ใช้งานแล้ว ต่อมาครั้งที่ 2 ผู้ต้องหาได้จัดส่งถุงมือทางการแพทย์ไปที่ประเทศสวิตเชอร์แลนด์ เมื่อสินค้าถึงปลายทางพบว่า เป็นกล่องถุงมือซึ่งภายในบรรจุก้อนอิฐอยู่ ผู้เสียหายจึงได้พยายามติดต่อทวงถามไปยังผู้ต้องหา แต่ไม่สามารถ ติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงได้ประสานงานระหว่างประเทศเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ น.ส.ปัณณภัสร์ หรือเอริ และ น.ส.สาวิกา ผู้ต้องหา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม 65 เจ้าหน้าตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบที่พักของผู้ต้องหาทั้งสอง จึงได้ระดมกำลังทำการปิดล้อมตรวจค้นสถนที่ต่างๆ จำนวน 5 จุด จนสามารถจับกุมตัว น.ส.ปัณณภัสร์ หรือเอริ
ได้ที่บ้านพักหรู แห่งหนึ่งผ่านทองหล่อ ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. และจับกุมตัว น.ส.สาวิกา ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านบางบอน แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. พร้อมทั้งตรวจยึดพยานหลักฐานต่างๆในคดี

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีต่อไป