โฆษก ตร. เตือน “เมาแล้วขับ” คุกหนัก 10 ปี !! ตำรวจจัดเต็มปีใหม่ ตั้งด่านกวดขันวินัย เพื่อความปลอดภัย ทั่วประเทศ

31 ธ.ค.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงเทศกาล ปีใหม่ 2565 อาจมีพี่น้องประชาชนเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนา ในจังหวัดต่าง ๆ บางท่านอาจจะ ดื่มสุราแล้วขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนเป็นอันตรายร้ายแรงกับตนเองและผู้อื่นได้

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการจับกุมผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างเข้มข้น จึงอยากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การขับขี่รถ ขณะเมาสุรา เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ จนเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นในบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขึ้นเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย

พระราชบัญญัติจราจร พ.ศ.2522
มาตรา 43 (2) ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
มาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน ไม่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น เพื่อลดความสูญเสีย และอุบัติเหตุบนท้องถนน ขอให้พี่น้องประชาชนเดินทาง อย่างปลอดภัย มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ 2565 และหากท่านใดพบการกระทำความผิด ขอให้แจ้งไปยัง สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง