ตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลัง 3 หน่วยร่วมจับกุมหนุ่มใหญ่หนีหมายจับจนญาติคิดว่าตาย กบดานภูเก็ต

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป, พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล, พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ พร้อมด้วยกำลัง ชุดปฏิบัติการ 3 กก.1 บก.ปทส., กก.5 บก.ป. และ จนท.กก.2 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุมนาย อนุรักษ์ หรือ รัก (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 760/2556 ลง 24 เมษายน 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ที่บริเวณที่พักไม่มีเลขที่ ม.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต

พฤติการณ์ ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่ง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดเป้าหมายในการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และ สืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ ในระหว่างห้วงวันที่ 25 ธ.ค.2564 – 3 ม.ค.2565

เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2556 นายอนุรักษ์ฯ ผู้ต้องหานี้กับพวกรวม 3 คน ทำงานเป็นช่างไม้อยู่ที่โรงงานไม้แปรรูปแห่งหนึ่งย่านสายไหม กรุงเทพฯ ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบไม้ที่นายอนุรักษ์ฯ ทำการแปรรูปอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายอนุรักษ์ฯ กับพวกได้ร่วมกันทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายอนุรักษ์ฯ ได้ทำการหลบหนีในชั้นศาล จึงได้ทำการติดตามตัวเรื่อยมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้ทำการสืบสวนเพื่อดำเนินการจับกุมตัว นายอนุรักษ์ฯ ผู้ต้องหา ซึ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นเวลากว่า 8 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามติดตามจับกุมเพื่อนำผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสืบของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอีกว่า นายอนุรักษ์ฯ ภายหลังที่หลบหนีการจับกุม ไม่ได้ติดต่อผู้ใดอีกเลย จนญาติที่บ้านเกิดคิดว่า นายอนุรักษ์ฯ ได้เสียชีวิตไปแล้ว

จากการสืบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. พบว่า นายอนุรักษ์ หรือรัก หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ม.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อ วางแผนการจับกุม และได้ประสานบูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ทล. เข้าทำการตรวจสอบตามสถานที่ดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 29 ธ.ค.2564 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางมาตรวจสอบและเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 15.30 น. ได้พบตัว นายอนุรักษ์ฯ ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับข้างต้นอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวจับกุม จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น นายอนุรักษ์ฯ ให้การว่า เมื่อปี พ.ศ.2556 ขณะนั้นตนทำงานเป็นช่างไม้ในโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่งในอาคารไม่มีเลขที่ ย่านสายไหม ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. เข้าทำการจับกุมพร้อมพวกอีก 2 ราย ในข้อหารร่วมกันทำไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตนและพวกได้ถูกดำเนินคดีจนต่อมาศาลนัดฟังคำพิพากษา แต่ต่อมาเกิดความกลัวว่าจะต้องโทษคดีจึงทำการหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตโดยไม่มีการติดต่อผู้ใดอีกเลย จนญาติคิดว่าตนเสียชีวิตไปแล้ว