ตำรวจสอบสวนกลางบุกรวบ “ขวัญ ปาเลสไตน์” ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงตำรวจสุรินทร์แล้วหลบหนี

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร ,พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.,พ.ต.ท.รณกร สุขมงคล, พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.ภัทรพันธ์ ศิริเพิ่มพูนชัย รอง ผกก.4 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ศรัณย์ ศรีพักตร์ สว.กก.4 บก.ป., พ.ต.ต.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.4 บก.ปคม. พร้อมพวก

ร่วมกันจับกุม นายกิตติฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ฉายา“ขวัญ ปาเลสไตน์” ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.111/2564 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ในความผิดฐาน “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่น่าจะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาบ้าจำนวน 396 เม็ดจับกุมได้ที่ห้องพักย่านบางแค แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จับกุมเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 16.30 น.

พฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งมน ได้รับแจ้งว่านายกิตติฯ ฉายา“ขวัญ ปาเลสไตน์” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 12 เมษายน 2564 ในความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” กำลังมั่วสุมอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นอยู่ที่บ้านแห่งหนึ่ง บริเวณ หมู่ 7 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบนายกิตติฯอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อจะเข้าทำการจับกุม แต่นายกิตติฯกลับขัดขืนและวิ่งหลบหนี ซึ่งในขณะนั้นมี ส.ต.ท.ชนาธิป โตพฤกษาวิ่งไล่ติดตามไป เมื่อนายกิตติฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตาม จึงใช้อาวุธปืนพกสั้นที่พกติดตัวมาเล็งยิงไปที่ ส.ต.ท.ชนาธิปฯ จำนวน 1 นัด แต่กระสุนไม่แตก จังหวะเดียวกันนั้น ร.ต.ท.สาธิต ราษีทอง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปสกัดในจุดที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เมื่อนายกิตติฯ วิ่งมาประจันหน้ากับ ร.ต.ท.สาธิตฯ นายกิตติฯ ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นยิง ร.ต.ท.สาธิตฯ จำนวน 3 ครั้ง แต่กระสุนไม่แตก จากนั้นนายกิตติฯ ได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าทึบไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งศาลจังหวัดสุรินทร์ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.111/2564 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เพื่อติดตามจับกุมนายกิตติฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำการสืบสวนจนทราบว่านายกิตติฯผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีมาอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งย่านบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรี และศาลได้อนุมัติหมายค้นตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี
ที่ 586/2564 ลง 28 ธันวาคม 2564 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนายกิตติฯ อยู่ภายในห้อง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ระหว่างการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นนายกิตติฯ ถือกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล จึงได้ขอตรวจสอบ พบว่าภายในมียาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 396 เม็ด จากนั้นได้นำตัวนายกิตติฯ มาจัดทำบันทึกการจับกุมที่ กก.4 บก.ป. และนำตัวส่ง พงส.สภ.ทุ่งมน จว.สุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในส่วนของยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบในกระเป๋าสะพายของนายกิตติฯนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ต้องหานี้ต่อพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” เพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่นายกิตติฯ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเป็นหนึ่งใน “แก๊งปาเลสไตน์” ซึ่งเป็นกลุ่มแก๊งค้ายาที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน โดยจะนำชื่อเล่นมาประกอบกับชื่อ “ปาเลสไตน์” ซึ่งขณะนี้เพื่อนในกลุ่มยาเสพติดดังกล่าวได้ถูกจับกุมไปบางส่วนแล้วซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมแก๊งนี้ต่อไป

จากการตรวจสอบประวัตินายกิตติฯ ฉายา“ขวัญ ปาเลสไตน์”พบว่ามีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด
ตั้งแต่อายุ 14 ปี และถูกจับกุมเกี่ยวกับข้อหายาเสพติดมาแล้วจำนวน 7 คดี และยังมีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก1 หมายจับคือ หมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 12 เมษายน 2564 ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”