ตำรวจไซเบอร์บุกจับขบวนการซื้อขายบัญชีม้า ล่าสุดออกหมายจับ 518 หมายจับทั่วประเทศ พบส่วนใหญ่เป็นเยาวชน อายุต่ำสุด 15 ปี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมด้วย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาฯ รรท.เลขาฯ กสทช. นายธวัช ไทรราหู ประธานชมรมตรวจสอบและป้องกันทุจริต ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ “ระดมปราบปรามบัญชีม้าตัดวงจรหลอกลวงภัยออนไลน์ ” ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 26 ราย ตรวจยึดของกลางบัญชีธนาคารจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมปราบปรามบัญชีม้าตัดวงจรการหลอกลวงไทยออนไลน์ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคมถึง 22 ธันวาคม 2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 26 คน จากคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงออนไลน์หลายคดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท โดยมีคดีสำคัญคือการจับกุมเอเย่นต์รับซื้อขายบัญชีม้า ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้นำกำลังเข้าค้นบ้านพักในจังหวัดชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นบ้านของขบวนการรับซื้อขายบัญชีม้า จากการตรวจค้นพบบัญชีธนาคารหลายธนาคารรวม 107 บัญชี ซึ่งเป็นของบุคคลต่างๆ รวมกว่า 60 คน

ซึ่งจากการสอบสวนเจ้าของบ้านยอมรับว่า ได้รับซื้อบัญชีจากชาวบ้านในละแวก บัญชีละ 800-1200 บาท ซึ่งแต่ละบัญชีจะต้องมีบัตร ATM หรือผูกกับแอปพลิเคชั่นธนาคารออนไลน์ไว้แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่ามี 10 บัญชีจาก 107 บัญชี เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีม้ามาแล้ว อีกทั้งลักษณะของถิ่นที่อยู่เจ้าของบัญชียังพบว่ามีลักษณะเกาะกลุ่มในพื้นที่เดียวกัน เช่น ตำบลเดียวกัน หมู่บ้านเดียวกัน โดยมักจะเป็นชุมชนของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

เบื้องต้นเจ้าของบัญชีเหล่านี้จะถือว่ามีความผิดเสมือนตัวการที่นำบัญชีไปกระทำความผิด เข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 343 มี โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้ออมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 60 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10.000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.กรไขย ยังระบุอีกว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าทั้งหมด 518 หมายจับ แบ่งเป็นหมายจับของตำรวจไซเบอร์กว่า 100 หมายจับ และของตำรวจท้องที่อีกกว่า 400 หมายจับ ซึ่งบัญชีม้าส่วนใหญ่ที่พบเป็นเยาวชน บางคนอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่มีเงินหมุนเวียนเข้าออกเป็นจำนวนมาก จึงได้ประสานกับสมาคมธนาคารฯ ให้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของเงินจำนวนมากผิดปกติในบัญชีเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ยืนยันไม่ได้เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป

ขณะที่นายธวัช ไทรราหู ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่าในการติดตามเงินของผู้เสียหายยังมีอุปสรรคเรื่องของระยะเวลาในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และ กรอบอำนาจตามกฎหมายที่จะแก้ปัญหาให้ทันสถานการณ์ แต่ขณะนี้ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานไปทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว