ตำรวจ ดส.รวบสาวแสบปลอมเฟซบุ๊กอ้างเป็นแฟนเก่าเหยื่อ หลอกให้โอนค่าพัสดุ สูญเงินกว่า1แสนบาท

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่22 ธ.ค.64 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล, พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์, พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ประกอบด้วย พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส. , ร.ต.อ.กฤษณะ มั่นศักดิ์, ร.ต.ต.สมยศ สุขอร่าม, ร.ต.ต.ณรงค์วิทย์ หนูพุก รอง สว.กก.ดส., ด.ต.พงษ์ศักดิ์ พวงสวัสดิ์, ด.ต.พีรทัศน์ ภัชรอาจ, ส.ต.ท.ทศพล สอาดเอี่ยม ผบ.หมู่ กก.ดส. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.เพ็ญประภา ยะรังวงษ์ อายุ ๒๙ ปี (๑ ๑๐๐๗ ๐๑๕๐๙ ๔๗ ๑) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.๒๗๒/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”บริเวณบ้านเลขที่ ๒๑๒ หมู่ที่ ๖ ต.บัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. และ ๑๖.๑๖ น. สามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ภายในซอยอ่อนนุช ๘๖ แยก ๒ แขวงประเวศน์ เขตประเวศน์ กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ นายพรหมพิริยะ ตะเพียนทอง ผู้เสียหาย แจ้งว่า ได้มี น.ส.อาเมเลีย เพรช ใช้เฟซบุ๊คของตนชื่อว่า Amelia Presh ซึ่งเป็นแฟนเก่า ได้เข้ามาสนทนาทางโปรแกรมแช็ทของเฟ๊ซบุ๊ค กับผู้เสียหาย โดยแจ้งว่าตนต้องการมาอยู่ที่ประเทศไทย ผู้เสียหายจึงได้ตอบตกลงและรับดูแลอำนวยความสะดวก ต่อมา นางสาวอาเมเลียฯ แจ้งว่า ตนต้องส่งข้าวของเครื่องใช้มาก่อนทางพัสดุ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ ได้มีบุคคลซึ่งอ้างว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร โทรศัพท์มาแจ้งกับผู้เสียหายว่าพัสดุมาถึงแล้ว และให้จ่ายเงินค่าภาษีเพื่อนำพัสดุดังกล่าวออกไป เป็นเงินจำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท โดยให้โอนเงินไปยัง บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เลขที่ ๙๒๘-๗๐๙-๔๔๙๕ ชื่อบัญชี Panprapa Yarangwong ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าวเป็นเงินจำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้โทรศัพท์มาอีกครั้ง แจ้งว่า พัสดุผ่านเครื่องสแกนแล้ว พบว่าข้างในมีข้าวของเครื่องใช้และเงินสดเป็นจำนวนมาก บุคคลดังกล่าวจึงได้แจ้งให้ผู้เสียหาย จ่ายเงินเบี้ยปรับในความผิดฐาน “นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่สำแดง” เป็นเงินจำนวน ๙๘,๐๐๐ บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินจำนวน ๙๘,๐๐๐ บาท ไปยังบัญชีธนาคารดังกล่าวอีกครั้ง อีกครู่หนึ่ง บุคคลดังกล่าวได้โทรศัพท์มาอีก แจ้งว่า ต้องจ่ายเงินค่าปรับอีกจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จึงจะนำพัสดุดังกล่าวออกมาได้ ผู้เสียหายเห็นว่าผิดสังเกต จึงมิได้โอน และได้มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นางสาวเพ็ญประภาฯ เจ้าของบัญชีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด


​จากการตรวจสอบ พบว่าเงินที่ถูกประทุษร้ายดังกล่าวได้ถูกเบิกถอนออกบริเวณจังหวัดปทุมธานี และอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าธนาคาร รวมทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย รวมเป็นเงิน จำนวน ๑๓๓,๐๐๐ บาท จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป