5 พ.ย.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร. เผยว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหาย มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้โทรหาผู้เสียหาย แล้วแจ้งว่าผู้เสียหายนั้นมีส่วนร่วมในกระบวนการฟอกเงิน หลังจากที่ผู้เสียหายไม่เชื่อ ก็ได้มีการโอนสายให้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวเป็น “พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์” หรือ “พ.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์” โฆษก ตร. และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินไปให้กับบัญชีของคนร้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการแอบอ้างชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ จึงขอให้ผู้ที่ได้รับสายในลักษณะดังกล่าวนี้ “มีสติ อย่าหลงเชื่อ” ตามคำกล่าวอ้างของคนร้าย และอยากแจ้งเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 209 ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็น “อั้งยี่” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็น “ซ่องโจร” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท
มาตรา 342(1) ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยหากคนร้ายใช้วิธีการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือข้อมูลการติดต่อของผู้เสียหาย หรือโดยไม่ได้เฉพาะเจาะจงผู้เสียหายคนใดคนหนึ่ง จะมีความผิดตาม มาตรา 343 วรรค 2 ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท
ถึง 140,000 บาท
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นตน อย่างถึงที่สุดและขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน ก่อนจะโอนเงินให้ผู้ใด ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนหากพบว่าถูกหลอกให้โอนเงิน ได้รับความเสียหาย ขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง