ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป. รวบสาวแสบหลอกขอรหัส OTP แฮกไลน์ยืมเงิน พบมีเหยื่อสูญเงินหลายราย

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร , พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ปัทมา หรือ แป้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 203/2564 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง , สมุดบัญชี 3 เล่ม , บัตรเอเทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ จับกุมตัวได้ที่ บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 22.30

พฤติการณ์คือ ผู้เสียหายได้เข้ามาขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ช่วยสืบสวนจับกุมกลุ่ม ผู้ต้องหาก่อเหตุแฮกไลน์ของญาติผู้เสียหาย แล้วหลอกยืมเงิน จนมีผู้ได้รับความเสียหายและเดือนร้อนเป็นจำนวนมาก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 ญาติของผู้เสียหายที่ถูกแฮกไลน์ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ อายุ 61 ปี อยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี และเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก ได้ถูกคนร้ายโทรศัพท์เข้ามาหาและออกอุบายขอ รหัส OTP จนญาติของตนหลงเชื่อ ได้ให้รหัส OTP ไป หลังจากนั้นไลน์ของญาติก็ไม่สามารถใช้การได้ประมาณ 1 ชั่วโมง และต่อมาพบว่า ไลน์ของญาติ ได้ส่งข้อความขอยืมเงินไปยังบุคคลต่างๆ รวมทั้งมีข้อความขอยืมเงินมายังผู้เสียหาย จำนวน 4,500 บาท ซึ่งผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นญาติของตน จึงหลงเชื่อโอนเงินให้ไป แต่มาทราบภายหลังว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี

จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ถูกคนร้ายโทรศัพท์ไปหลอกขอรหัส OTP แล้วแฮกไลน์ไปขอยืมเงินบุคคลต่างๆ ยอดเงินหลักพันบาทจนถึงหลักหมื่นบาท โดยจะมีชื่อบัญชีธนาคารที่แตกต่าง กันไปในรับโอนเงิน

จากพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และเพื่อไม่ให้มี ผู้เสียหายรายอื่นตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายอีก กองบังคับการปราบปราม จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนของ กก.2 บก.ป. ออกสืบสวนเพื่อนำตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

จากการสืบสวนทราบว่าบัญชีธนาคารที่ถูกผู้เสียหายโอนเงินส่วนมากเป็นร้านค้า หรือ บุคคล ที่ไม่ทราบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการหลอกลวง เช่น ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ผู้ต้องหามักจะออกอุบายว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือแล้วขอเลขบัญชีธนาคารของร้าน เมื่อมีเงินของผู้เสียหายโอนเข้ามายังร้าน ผู้ต้องหาจะแจ้งกับทางร้าน ว่าขอยกเลิกรายการ แล้วให้โอนเงินกลับมาอีกบัญชีที่ทางกลุ่มผู้ต้องเตรียมไว้ แต่จะมีค่าเสียเวลาให้กับทางร้านค้า ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาก็จะไปหลอกเจ้าของบัญชีที่จะรับเงินจากร้านค้าอีกทางหนึ่ง โดยอ้างว่าจะมีเพื่อนโอนเงินมาให้ ให้ช่วยไปกดเงินออกมาให้ผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. จึงทำการสืบสวนและรวบรวมหลักฐานประสานไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา จนพนักงานสอบสวนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับ ผู้ร่วมกระทำความผิด 1 ราย คือนายไก่ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 199/2564 ลงวันที่ 26 ต.ค.2564 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่บริเวณริมถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาม กรุงเทพฯ พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ และได้ทำการขยายผลจนทราบตัวผู้ร่วมกระทำความผิดคือ น.ส.ปัทมา (ผู้ต้องหารายนี้)

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ปัทมาฯ มีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก มีผู้เสียหายหลายรายโพสข้อความเตือนภัยว่า น.ส.ปัทมาฯ มีพฤติการณ์แฮกไลน์แล้วส่งข้อความไปหลอกยืมเงิน สอดคล้องกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ป. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสระบุรี

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวนางสาวปัทมาฯ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวนางสาวปัทมาฯ ได้ที่บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุติดต่อไปหลอกขอรหัส OTP โดยจะหาเหยื่อจากการค้นหาตามสื่อต่างๆ ทางโซเชียล เน้นเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุ และทำการหลอกลวงโดยใช้กลอุบายต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งรหัส OTP แล้วจะทำการแฮกไลน์ จากนั้นจะสวมรอยเป็นเหยื่อที่ถูกแฮกแล้วส่งข้อความขอยืมเงินบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ

โดยมีเหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินหลักพันบาท จนถึง หลักหมื่นบาท ซึ่งบัญชีธนาคารต่างๆ ที่ตนมีไว้รับโอนเงิน ตนจะทำทีเป็นซื้อของหรือหลอกขอเลขบัญชีจากผู้อื่น เพื่อเป็นบัญชีสำหรับรับโอนเงิน และ หลอกให้กดเงินมาให้ตน

น.ส.ปัทมาฯ รับสารภาพว่าตนทำมาแล้วนานเกือบ 1 ปี โดยได้เงินมาเป็นจำนวนมาก ส่วนเงินที่ได้มาจะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “โดนหลอกหลวงเอาเงินในบัญชีธนาคารจากโทรศัพท์มือถือ จำนวนเกือบ 5,000 บาท” ตนรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้ขอยืมโทรศัพท์ของผู้เสียหาย แล้วหลอกให้ทางผู้เสียหายโอนเงินมาให้ ซึ่งตนได้ชดใช้ให้กับทางผู้เสียหายไปบางส่วนแล้ว และในกรณีที่มีผู้เสียหายบางรายแจ้งความดำเนินคดีกับตน ตนได้นำเงินไปคืนเพื่อให้ผู้เสียหายยอมความ

ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่ใช้อุบายต่างๆ เช่น การรับพัสดุหรือรับสินค้า หรือ การทำธุรกรรมต่างฯ เพื่อพยายามขอรหัส OTP จากผู้ใช้ ซึ่งการกรอกรหัสดังกล่าวต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่ควรให้ผู้อื่นเป็นคนกรอก โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จัก เพราะการให้รหัส OTP เป็นการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อทำธุรกรรมของผู้ใช้ได้

ในส่วนของทางร้านค้าต่างๆ ท่านควรตรวจสอบที่มาของเงินที่ท่านได้รับโอนมา ว่าเป็นเงินที่ผิดปกติ หรือมีข้อพิรุธสงสัยในธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ หากพบว่ามีข้อสงสัย ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของมิจฉาชีพ