จับกุมและสกัดกั้นยาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาไอซ์ 235 กก. ที่ด่านตรวจป่าตึง สภ.แม่ลาว จว.เชียงราย

ตำรวจภูธรภาค 5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ได้นำบัญชาและข้อสั่งการไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้บูรณการกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ภ.5 โดย สภ.แม่ลาว จว.เชียงราย ,กก.สส.จว.เชียงราย ร่วมกับฝ่ายปกครอง ,ฝ่ายทหาร กองทัพภาคที่ 3 ,ป.ป.ส.ภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พฤติการณ์กล่าวคือเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 07.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจป่าตึง สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ตั้งด่านตรวจพบนายจรรยา กล้าทน อายุ 38 ปี ภูมิลำเนา ต.กลาง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหา ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน เลขทะเบียน ผท 4275 เชียงราย มาจาก อ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าไป อ.พาน จ.เชียงราย จึงเรียกให้หยุดขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ไอซ์ จำนวน 4 กระสอบ รวมจำนวน 112 กก. บรรทุกอยู่ในกระบะท้ายรถยนต์ จากนั้นก็ได้ขยายผล นายจรรยาฯ ผู้ต้องหา ผู้ต้องหารับว่ายังมียาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่บ้านพักของผู้ต้องหา และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึด พบยาเสพติด ไอซ์ อีกจำนวน 4 กระสอบ รวมประมาณ 123 กก. รวมยาเสพติด ไอซ์ ที่ตรวจยึดทั้งสิ้น จำนวน 235 กก. จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ลาว จว.เชียงรายดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดไว้ว่าจ้างให้ผู้ต้องหาไปรับยาเสพติดในพื้นที่ อ.เชียงแสน ไปส่งที่ อ.พาน จ.เชียงราย ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ต้องหาจึงขับรถยนต์คันของกลาง ไปบรรทุกยาเสพติดบริเวณป่าละเมาะในเขตพื้นที่ อ.เชียงแสน จำนวน 8 กระสอบ ซึ่งเต็มกระบะท้ายรถ ผู้ต้องหาจึงขับรถที่บรรทุกยาเสพติด มายังบ้านพักของผู้ต้องหาที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย แบ่งเอายาเสพติด จำนวน 4 กระสอบ ลงเก็บที่ไว้บ้านพัก และได้รับเงินค่าจ้างในการขนในครั้งนี้ไว้แล้ว 10,000 บาท

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า การจับกุมคดีดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดทำการเร่งรัดขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการสั่งการ ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ว่าจ้างขนยาเสพติด รวมถึงหาความเชื่อมโยงของการจับกุมยาเสพติดคดีใหญ่ๆ ครั้งที่ผ่านมา ว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ มาจากแหล่งผลิตใด โดยจะได้ทำการยึดทรัพย์สินเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดให้หมดไป อย่างจริงจังและเข้มงวด จากนี้จะได้เร่งรัดขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์สินเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดให้หมดไป

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องบุคคลหรือยานพาหนะที่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ภายในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยรวม