จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ หลอกคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายในกัมพูชา และจับกุมสมาชิกเครือข่ายค้าแรงงานข้ามชาติเมื่อปี 2558

จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น


จากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทยให้ได้กลับประเทศเป็นการเร่งด่วน และทำการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันยคนร้ายหรืออาชญากรได้ถือโอกาสที่คนได้รับผลกระทบจากปัญหาในช่วงไวรัสโควิด-๑๙ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยการหลอกลวงให้ไปใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นภัยต่อประเทศ ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) จึงได้ทำหน้าที่สืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวอย่างจริงจัง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวน พร้อมพวก ทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในกรณีดังกล่าว จนสามารถออกหมายจับเครือข่ายผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด ๑๐ ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน ๔ ราย, ผู้ต้องหาชาวกัมพูชาจำนวน ๔ ราย และผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน ๒ ราย


ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม 25๖๔ ชุดปฏิบัติการสืบสวน ศพดส.ตร. ได้ทำการจับกุม สองผู้ต้องหาชาวไทยที่ได้ถูกออกหมายจับจากกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย ๑) น.ส.อุบลรัตน์ พุฒิไพรสกุล อายุ ๒๒ ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ ๑๗๐๑/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๙ ต.ค.๖๔
๒) น.ส.เทียนฟ่ง แซ่หลี่ อายุ ๒๘ ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ ๑๗๐๒/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๙ ต.ค.๖๔ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ในพื้นที่ สภ.ฝาง และสภ.เวียงแหง จว.เชียงใหม่ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศพดส.ตร. ได้ประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศกัมพูชา เพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อคนไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางเอกสารเพื่อขอรับตัวเหยื่อคนไทยกลับประเทศไทยต่อไป


นอกจากนี้ ได้มีกรณีที่ทางการมาเลเซีย โดยสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้มีคำร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ร้องขอให้ทางการไทยส่งตัวบุคคลสัญชาติไทยจำนวน ๙ รายเป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนย้ายแรงงานโดยผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย ต่อมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดของไทย ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับบุคคลทั้ง ๙ รายตามคำร้องขอของทางการมาเลเซีย เพื่อดำเนินการจับกุมและส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศมาเลเซียต่อไปนั้น