เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. และ ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมแถลงผลจับกุม นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี อาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านบางแค ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 527/2564 ลงวันที่ 18 ต.ค.2564 ในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี” โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านหลักสอง เขตบางแค กทม.
พล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาผู้ปกครองและเด็กชาย อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ กก.1 บก.ปคม. ว่าถูกครูผู้ชายรายหนึ่งกระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ และพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร มิฉะนั้นจะนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าประจานให้คนอื่นรับรู้เพื่อให้อับอาย ซึ่งผู้เสียหายเกรงกลัวอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และถูกผู้ต้องหากระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง โดยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณกลางเดือนพ.ค.2561 เรื่อยมาจนถึงปี 2563 รวมเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวต่อ ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริงโดยใช้สถานที่ทั้ง ห้องน้ำ ห้องไอที และห้องดนตรี ที่มีฟูกที่นอนกระทำอนาจารเด็ก จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุมตัวเมื่อเช้าที่ผ่านมา บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การภาคเสธ ยอมรับว่ากอดจูบลูบคลำจริงแต่ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำผู้เสียหายเป็นเด็กไปตรวจร่างกายเพื่อหาบาดแผลเอาผิดผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป ส่วนคลิปวิดีโอระหว่างอนาจารเด็กนั้นกำลังตรวจสอบเพิ่มเติม
“ส่วนผู้ต้องหาที่กระทำอนาจารเด็กมานานกว่า 3 ปีนั้น จะขยายผลสอบย้อนหลังหลังผู้เสียหายรายอื่นๆ ด้วยซึ่งขณะนี้สอบสวนไปแล้ว 3 ราย และกำลังทยอยสอบปากคำเพิ่มอีกหลายราย” พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ เผยว่า ปคม. ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาคดีกระทำชำเราเด็กมีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ค่อยปรากฎเป็นข่าวเกรงจะกระทบต่อสภาพจิตใจเด็ก ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรสังเกตุอาการบุตรหลานหากพบว่ามีอาการซึมเศร้าหรือเจ็บปวดทางทวารหรืออวัยวะเพศก็ให้รีบพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม สถาบันครอบครัวต้องให้ความรู้ในการป้องกันตัวเด็กเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ นอกจากนี้ ทางโรงเรียนควรสอบประวัติคุณครูเบื้องต้นและช่วยเฝ้าระวังเด็กด้วยเพราะเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง