โฆษกตำรวจท่องเที่ยว แถลงกรณี นทท.รัสเซียพลัดตกบ่อน้ำพุร้อน อ.ปาย

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกฯ ชี้แจงกรณีที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย วัย 7 ขวบ พลัดตกบ่อน้ำพุร้อนที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดทางตำรวจท่องเที่ยวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแล้ว

จากกรณี สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวมีนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและตำรวจในพื้นที่ไม่รับแจ้งความ ตลอดจนค่ารักษาพยาบาลมีจำนวนสูงมากนั้น ล่าสุดทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในฐานะโฆษกของกองบัญชาการฯ จึงขอชี้แจงรายละเอียด เป็น 3 ประเด็นดังต่อไปนี้


ประเด็นที่ 1 การตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ในวันที่ 4 ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลาประมาณ 12.00 น. ที่ผ่านมา โดยครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก ไปเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนเหมืองแร่เมืองปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างถ่ายภาพอยู่ ลูกประสบอุบัติเหตุ พลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำส่งโรงพยาบาลอำเภอปาย แต่โรงพยาบาลอำเภอปาย เห็นว่าอาการสาหัสมาก จึงนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม จ.เชียงใหม่ ให้ทำการรักษา ส่วนกรณี ปรากฏในสื่อว่า ตำรวจไม่รับแจ้งความนั้น ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถานีตำรวจอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ ไม่มีชาวต่างชาติมาแจ้งความที่สถานีแต่อย่างใด ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้วก็ไม่พบ และกรณี ค่ารักษาพยาบาลที่มีจำนวนสูงนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องของภาคเอกชน แต่ตำรวจท่องเที่ยวก็อยู่ในระหว่างการสอบถามรายละเอียดอยู่

ประเด็นที่ 2 การดำเนินการหลังจากทราบข้อเท็จจริง ตำรวจท่องเที่ยวได้ประสานกับทางโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บมารักษา เผื่อว่าค่ารักษาพยาบาลอาจลดลงได้บ้าง แต่ก็ทราบภายหลังว่า ปัจจุบันมีมูลนิธิชาวคริสต์ออโธดอกซ์ ได้ให้ความช่วยเหลือรับผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกทม.แล้ว ส่วนประเด็นที่แจ้งว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าขัดแย้งกันนั้น อาจคาดเดาได้ว่าเป็นการเข้าใจผิด ที่ในบางครั้งนักท่องเที่ยวเจอเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานอื่น อาจคิดว่าเป็นตำรวจ รวมถึงปัญหาด้านภาษาที่ใช้ในการสื่อสารด้วย จึงทำให้เข้าใจผิดได้ว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทางภาคเหนือ ไปเยี่ยมให้กำลังใจ และชี้แจงรายละเอียด รวมถึงรับเป็นหน่วยงานประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว นอกจากนี้ยังมีในส่วนของสถานที่เกิดเหตุ ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบแล้วเห็นว่า แม้จะมีป้ายเตือนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ แต่ป้ายก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่เด่นชัด และยังไม่มีรั้วรอบขอบชิดอย่างเพียงพอที่จะป้องกันคนตกลงในบ่อน้ำพุร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวจะประสานงานหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดทำรั้วล้อมโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ขึ้นซ้ำอีก อย่างไรก็ตามตำรวจท่องเที่ยวได้ประสานงานกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผ่านทางกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งทราบว่ามีแนวโน้มในทางที่ดี อาจจะช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง

ประเด็นที่ 3 ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยว ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนด้วยว่าตำรวจท่องเที่ยวเรามีศูนย์ 24 ชม. ในการดูแลนักท่องเที่ยว เพียงโทรหมายเลข 1155 โดยที่ศูนย์ดังกล่าวมีผู้สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศหลักๆ ได้ถึง 5 ภาษา คือ รัสเซีย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี ก็อยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้ใช้บริการนี้ อีกทั้งในปัจจุบันตำรวจท่องเที่ยวอยู่ในระหว่างการพัฒนาศูนย์ควบคุมสั่งการดูแลนักท่องเที่ยว 24 ชม. แบบ Real time ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า โดยศูนย์ควบคุมสั่งการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวและตำรวจท่องเที่ยวสามารถสื่อสารได้ระบบ Two way communication และเป็นแบบ Real time จึงทำให้เราสามารถดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแบบทันการและทันเวลา โดยในระหว่างที่ศูนย์อยู่ในระหว่างการพัฒนานี้ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้นำโปรแกรม Tourist Police i- lert-u มาใช้พลางก่อน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวทุกคน download โปรแกรมนี้แล้วก็สามารถติดต่อตำรวจท่องเที่ยวได้รวดเร็วเช่นเดียวกัน และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวอยากฝากถึงนักท่องเที่ยวทุกท่าน ให้ทราบว่า ประเทศไทยมีความยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน และเราพร้อมปกป้องดูแลความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ก็อยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน ซื้อประกันภัยการเดินทางซึ่งเป็นประกันที่คุ้มครองชีวิตของนักท่องเที่ยวมาด้วยจะดีมาก เพื่อความรอบคอบและความมั่นใจในการท่องเที่ยว และเพื่อความไม่ประมาทซึ่งสามารถคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆ

สุดท้ายนี้ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็ได้ประสานงานกับสถานทูตรัสเซียเพื่อชี้แจงและการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว และอยากเรียนให้ทราบว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมีกลุ่มไลน์ประสานงานกับนายตำรวจประสานงานระหว่างประเทศของทุกสถานทูตที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวพร้อมและยินดีที่จะเป็นเพื่อนเดินทางคนแรกที่ไว้ใจได้ของนักท่องเที่ยวเสมอ (Your first friend)