ตำรวจภูธรปราจีนฯ ชี้แจงกรณีตร.ถูกทำร้าย ดูหมิ่น ขณะเข้าระงับเหตุ

ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี/โฆษกประจำตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี

 เนื่องด้วยมีการแชร์ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์  เฟสบุ๊คของ  พระจันทร์  ลายกระต่าย  ระบุหัวข้อเรื่องว่า   ท่านใดมี ว.8 มากกว่านี้บ้างครับ #อยู่ยากแล้วตำรวจไทย  รับแจ้งเหตุ 191 ไประงับเหตุถูกดูหมิ่น  ถูกทำร้าย  บาดเจ็บ  ไร้เจ้านายเหลียวแล  เหตุเกิดในท้องที่  สภ.เมืองปราจีนบุรี  ตำรวจอีกนายโดนชกต่อย  หน้าตาปูดบวม  คลิปจากกล้องหน้าหมวกสายตรวจ  คลิปและภาพในคอมเม้นต์ใต้โพสต์ครับ  และมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวประกอบการแชร์ข้อมูล  จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองปราจีนบุรี 

พ.ต.อ.ธนกฤษ  พาภิรมย์  ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี  ได้ทราบเรื่อง  และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.เมืองปราจีนบุรีทำการตรวจสอบพบว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่  23  สิงหาคม  2564  เวลาประมาณ  23.45 น.  โดยเหตุการณ์ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่  ด.ต.ภาณุภัสส์  อินทร์นอก  และ ส.ต.ท.ยงยุทธ  ถนอมลาภ  สายตรวจรถจักรยานยนต์  ชุด 112  ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทภายในตรอกพาณิชย์ศึกษา ต.หน้าเมือง  อ.เมืองปราจีนบุรี  จ.ปราจีนบุรี  จึงเดินทางไปตรวจสอบ  เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีชายจำนวน 3 คน จับกลุ่มดื่มสุรา  และทะเลาะวิวาทกันจริง  จึงได้เข้าระงับเหตุ  แต่ผู้ก่อเหตุทั้งสามคนได้ด่าทอเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งสองนาย  โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งสองนายได้ใช้ความอดทนอดกลั้น  ผู้ก่อเหตุได้ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจ  และได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งสองนายได้รับบาดเจ็บ  โดยมี พ.ต.ท.จุมพล  ทฤษฎีสุข  สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปราจีนบุรี  เป็นพนักงานสอบสวนเวรผู้รับผิดชอบ  จากการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า  ด.ต.ภาณุภัสส์  อินทร์นอก  และ ส.ต.ท.ยงยุทธ  ถนอมลาภ  สายตรวจรถจักรยานยนต์  ชุด 112  ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้งเหตุ  เมื่อถึงที่เกิดเหตุ  ได้ตรวจสอบแล้วมีการทะเลาะวิวาทกันจริง  จึงได้เข้าระงับเหตุ  แต่ถูกนายสุรัตน์  ทองใบ ,นายวิชาญ  มลิซ้อน และนายวิชัย  มลิซ้อน (ทราบชื่อสกุลภายหลัง) ได้ร่วมกัน ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายจริง  พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งตัวเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งสองนายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการออกหมายเรียกนายสุรัตน์  ทองใบ, นายวิชาญ  มลิซ้อน  และนายวิชัย  มลิซ้อน ผู้ต้องหา  เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา  ต่อมาในวันที่  4  กันยายน  2564  เวลาประมาณ  12.00 น.  นายวิชาญ  มลิซ้อน  และนายวิชัย  มลิซ้อน  ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน  และพนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาให้นายวิชาญ   มลิซ้อนและนายวิชัย มลิซ้อน   ได้รับทราบว่า “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย    และร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย”   ส่วนนายสุรัตน์  ทองใบ  ได้หลบหนี  อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอศาลออกหมายจับ  เพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  และในทันทีหลังเกิดเหตุ 

เมื่อวันที่  24  สิงหาคม  2564  เวลา  08.00 น. ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้มีการเรียกประชุมหัวหน้างาน  ระดับ สว. ขึ้นไป  ให้มีการสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา  ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ให้มีการอบรมประชุมชี้แจง  มอบหมายภารกิจ  ตรวจสอบความพร้อม เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์และในขณะปฏิบัติหน้าที่  หากเกิดปัญหาข้อขัดข้อง  ให้นายตำรวจระดับ สว. และรอง ผกก.  เข้าไปแก้ปัญหาโดยทันที  และรายงานให้ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรีให้ทราบ  หลังเกิดเหตุให้มีการซักถามข้อขัดข้องและสรุปการปฏิบัติงานในรอบวันที่ผ่านมา  และให้สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกเรื่อง  ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการปฏิบัติหน้าที่  และเน้นย้ำให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการติดตามบุคคลหลบหนี  และให้ฝ่ายสอบสวนเร่งรัดการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด  ให้ได้รับโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด