จากกรณี ที่มีข้อมูลปรากฏว่า พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เคยทำงานด้านยาเสพติด อยู่ในสังกัด กองบัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด นานหลายปี ตั้งแต่ละระดับสารวัตร จนถึงระดับ รองผู้กำกับการ ก่อนจะย้ายออกไป ดำรงค์ตำแหน่งรองผู้กำกับการ สืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก จนมีกระแสข่าววิพากวิจารน์ ตั้งข้อสงสัยในการทำงานเกี่ยวกับยาเสพติดว่ามีความรุนแรงแบบนี้หรือไม่
พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยืนยันว่าตัวพันตำรวจเอกธิติสรรค์ เคยเป็นรองผู้กำกับการ บก.ปส.4 จริง แต่การทำงานของ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะทำงานเป็นทีมมีหลายหน่วยงานทำงานร่วมกัน ไม่มีการทำงานคนเดียว หรือใช้ความรุนแรงลักษณะนี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าตำรวจกว่า 2 แสนนาย ย่อมมีบางส่วนที่เป็นคนไม่ดี เช่นเดียวกับทุกอาชีพ อาจจะมีบ้างที่คนไม่ดีหลุดเข้ามาเป็นตำรวจ พอยศใหญ่ก็หลงลืมตัวใช้อำนาจไปในทางไม่ถูกไม่ควร ซึ่งก็ขอให้ประชาชนช่วยตรวจสอบ เพื่อกำจัดคนไม่ดี ที่มาเป็นตำรวจออกไป
ส่วนตัวพันตำรวจเอกธิติสรรค์ ขณะที่ทำงานในสังกัด ปส ก็ทราบว่าทำงานมีผลงานทำงานดี แต่ได้กำชับให้หัวหน้างานทุกคนที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรวจสอบย้อนหลังไปถึงช่วงที่ทำงานในสังกัด ปส ว่าทรัพย์สิน เป็นเช่นไร มีสิ่งใดผิดปกติในการทำงานหรือคดีต่างๆหรือไม่ รวมถึงคดีที่มีการเปิดเผยว่ามีการเข้าเครียร์คดี จูนบ่อดิน เมื่อปี 2560 ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือพวกของกลางที่เป็นรถหรู ที่พวกขบวนการยาเสพติดชอบใช้เป็นทรัพย์ในการฟอกเงิน หากมีการจับกุมและตรวจยึด ก็ต้องทำบัญชีส่งให้ ปปส.ดำเนินการต่อ ตำรวจ ปส.ไม่สามารถนำออกไปขายเป็นทรัพย์ได้อย่างแน่นอนน แต่อาจจะเป็นการออกไปทำงานซื้อขายนอกหน้าที่ เพราะมีความชอบและรู้กลุ่มคนที่ซื้อขายรถประเภทนี้ ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ได้สั่งการ บช.ปส. ดำเนินการ ติดตามตัว พันตำรวจเอกธิติสรรค์ มาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน