พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายบุญช่วย หรือแอ๊ด เกษา ผู้ต้องหาตามหมายจับจากศาลอาญา หลังตำรวจ ปส. ขยายผลมาจนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้บงการการขนส่งยาเสพติด เครือข่ายหนึ่ง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก การที่ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2563 กก.2 บก.ปส.2 มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ กว่า 100 กิโลกรัม ได้ที่ด่าน ตรวจค้นยานพาหนะสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะขยายผลจนทราบว่า มีนายปรีดา ภูเวียนวงศ์ เป็นผู้สั่งการ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวน จนในเวลาต่อมาช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน กก.2 บก.ปส.2
ได้ทำการสืบสวนจนได้เบาะแสสำคัญและสามารถจับกุมตัวนาย ปรีดา ได้ พร้อมพวก รวม 5 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 7,986,000 เม็ด ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายบุญช่วย หรือแอ๊ด เกษา เป็นผู้สั่งการในการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว โดยได้นำรถตู้ของกลางมาดัดแปลงสภาพ เพื่อซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวที่อู่ของนายบุญช่วย และให้นายนรากรหรือหนุ่ย พันธ์เพ็ง ซึ่งเป็นลูกน้องขับรถไปรับยาเสพติดที่จังหวัดนครพนม และนำยาและรถตู้ไปให้นายปรีดา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเมื่อช่วงเมษายนขนย้าย ขณะนี้ตัวนายนรากร ยังอยู่ระหว่างหลบหนี
การสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าทำหน้าที่เพียงซ่อมบำรุงรถตู้ตามที่มีคนนำรถมาให้ทำ เช่นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยาง ติดฟิล์ม เพียงแค่นี้ ไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวกับยาเสพติด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายบุญช่วย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) หรือแมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบโดยตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
นอกจากนี้ในวันนี้ ยังมีการเข้าตรวจค้นเป้าหมายอีกจำนวน 35 เป้าหมาย ทั้งในเขต กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้อีกด้วย ซึ่งผลการดำเนินการตรวจค้นจับกุมในวันนี้ได้ผู้ต้องหา 1 ราย อายัดทรัพย์รวมกว่า 19 ล้านบาท
มีรายงานว่าสำหรับตัวนายนรากร ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนี ยังคงหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามสืบสวน เชื่อว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้