วันที่ 18 ส.ค. 64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการปฏิบัติของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ทำการจับกุมผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok ชื่อบัญชี “เรียกผมว่า เสือก๊อต” โพสต์วิดีโอบรรจุดินปืน(ชนิดทำเอง) อัดใส่ท่อพลาสติก พีวีซี สีฟ้า ลักษณะเป็นบั้งไฟเล็ก ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับอาวุธที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.4 บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4 ร่วมกันจับกุมนายจักรพันธุ์ หรือก๊อต โสลา อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลาง จำนวน 16 รายการ โดยแจ้งข้อหา “ทำหรือค้าดอกไม้เพลิง(บั้งไฟขนาดเล็ก)โดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 16.30 น.
สำหรับพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนทราบว่า ได้มีบุคคลโพสต์การทำดอกไม้เพลิงขนาดเล็ก(ทำจากท่อน้ำพลาสติกพีวีซีสีฟ้า)ขายผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับอาวุธที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ผ่านแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก บัญชีผู้ใช้ชื่อ “เรียกผมว่าเสือก๊อต” ID:@got0305 โดยมีนายจักร์พันธุ์ เป็นเจ้าของบัญชี และได้ใช้บ้านพักใน อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เป็นสถานที่ผลิตดอกไม้เพลิง จึงได้ทำการตรวจสอบกับนายทะเบียนฯ พบว่านายจักรพันธุ์ ไม่เคยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้ทำดอกไม้เพลิงแต่อย่างใด จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาล จ.พะเยา เมื่อไปถึงพบนายจักรพันธุ์ อยู่ภายในบ้านพัก ก่อนนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพัก ผลการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 16 รายการ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอและได้ทำการโพสต์เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ผ่าน แอปพลิเคชันติ๊กต๊อก จริง โดยได้ทำดอกไม้เพลิงของของกลางเพื่อไปจุดในพิธีงานศพในเขตพื้นที่จังหวัดพะเยา โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินครั้งละ 500-1,000 บาท และไม่ได้ส่งไปขายในต่างจังหวัด และรับว่าภาพการแต่งเครื่องแบบทหารเป็นภาพเมื่อตอนเป็นทหารเกณฑ์ และปัจจุบันตนเองไม่ได้รับราชการทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มพยายามใช้อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ รวมทั้งดอกไม้เพลิงและประทัดยักษ์ เข้ามาก่อความวุ่นวายและมุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยแทรกซึมรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการร้านค้าประทัด ดอกไม้เพลิง ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของทางราชการเกี่ยวกับการจำหน่ายวัตถุดังกล่าว ซึ่งหากมีหลักฐานว่าผู้ประกอบการรายใดมีพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจ ยุยงส่งเสริม จัดจำหน่าย หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการส่งเสริมให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด นำวัตถุดังกล่าวมากระทำในลักษณะผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป