ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 สืบสวนหาตัวคนร้าย สืบเนื่องจาก กรณี มีผู้เสียหาย ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ใช้แอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก ส่งข้อความส่วนตัวมาหาผู้เสียหาย ทาง แอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก ของผู้เสียหาย โดยข้อความดังกล่าว มีลักษณะเป็นการข่มขู่เอาเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อแลกกับการที่ไม่นำภาพลับ (ภาพโป็เปลือย ) ส่วนตัวของผู้เสียหายไปโพสต์หรือเผยแพร่ ในที่สาธารณะต่างๆ พร้อมกับส่งภาพลับบางส่วนมาให้ผู้เสียหายดู โดย ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ที่ สน.หลักสอง นั้น
ต่อมา (6 ส.ค. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายค้น ต่อศาลอาญาธนบุรี และได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น ห้องพักแห่งหนึ่ง ภายใน แอทยายา อพาร์ทเมนต์ ซอยเพชรเกษม 88/1 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ซึ่งระหว่างเดินทางเข้าตรวจค้น ได้พบ นายสมเกียรติ (เปรม) เดชแพง อายุ 28 ปี ซึ่งมีลักษณะตรงกับบุคคลที่ได้ทำการสืบสวน พักอยู่ที่สถานที่ตามหมายค้น ยืนอยู่บริเวณ หลังร้านบานานา ระหว่างซอยเพชรเกษม 51-53 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
จากการซักถาม นายสมเกียรติฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ทำจริง โดยส่งรูปภาพที่เห็นบริเวณหน้าอกของผู้เสียหาย ที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ไปข่มขู่ผู้เสียหาย แลกกับเงิน 5,000 บาท และได้นำโทรศัพท์มือถือ มาเปิดรูปภาพของผู้เสียหาย ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดู พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายค้นฯ ให้นายสมเกียรติฯ ดู ซึ่งนายสมเกียรติฯ ยอมรับว่า เป็นผู้ครอบครอง สถานที่ตามหมายค้นดังกล่าวจริง และสมัครใจยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ และ เราท์เตอร์ กระจายสัญญาณไวไฟ อยู่ภายในห้องดังกล่าว ซึ่งนายสมเกียรติฯ ให้การรับสารภาพว่า คอมพิวเตอร์ฯ เครื่องดังกล่าวมีรูปภาพของผู้เสียหาย อยู่ภายในคอมพิวเตอร์ฯ จริง และ รับว่า เมื่อประมาณ ปี 2561 ได้มีลูกค้า (ผู้เสียหาย) เข้ามาใช้บริการ ภายในร้านฯ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งและได้ทำการซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน จากนั้น ได้ทำการสมัคร iCloud และ G-Mail ให้กับลูกค้า (ผู้เสียหาย) เมื่อสมัครเสร็จสิ้น นายสมเกียรติฯ ได้เก็บรหัส iCloud และ G-Mail ของผู้เสียหายไว้ และนำรหัส G-Mail ดังกล่าวของผู้เสียหาย ไปเข้าโปรแกรม Google Photos ผ่านทาง คอมพิวเตอร์ฯ และได้ลักลอบนำรูปภาพรูปภาพโป๊เปลือยของผู้เสียหาย มาส่งข่มขู่ผู้เสียหายแลกเงินจำนวน 5,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “รีดเอาทรัพย์”โทษจำคุก 1 – 10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 338 และ “เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ” โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 7 พร้อมนำผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ถึงวิธีการตั้งรหัสผ่าน(password)ให้ปลอดภัย ด้วยวิธีง่ายๆ คือ “สร้างพาสเวิร์ดให้ยาว โดยที่เราจดจำได้ ใช้ตัวอักษรผสมกัน ไม่ใช้ชื่อคน ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือ วันสำคัญ หรือ ตัวอักษรที่คาดเดาได้ง่าย รหัสที่ดีควรดูเหมือนตัวอักษรที่สุ่ม และที่สำคัญ ไม่ควรให้ผู้อื่นรู้รหัสผ่าน (password) ของเรา ซึ่งในยุคปัจจุบัน ดิจิทัลเข้ามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ทั้งการทำธุรกรรม การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงความสำคัญ
ทั้งนี้ หากพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1441 ได้ในวัน เวลาราชการ และหมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง