รอง ผบช.น. ชี้ ปรับแผนเพิ่มความเข้มด่านเคอร์ฟิว

รอง ผบช.น. ลงพื้นที่จุดตรวจเคอร์ฟิว 6จุด ในพื้นที่ กทม. ชี้ มีการปรับแผนเพิ่มความเข้มในการตรวจ ย้ำ ขอความร่วมมือ ปชช.ปฏิบัติตามมาตรการภาครัฐ อย่างเคร่งครัด

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 ก.ค.64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รอง ผบก.น.6 ได้ลงพื้นที่ตรวจการตั้งด่านช่วงเวลาเคอร์ฟิวจำนวน 6 จุด ในเขต กทม. ประกอบด้วย บริเวณหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พื้นที่ สน.ปทุมวัน, บริเวณแยกหมอมี พื้นที่ สน.พลับพลาไชย2, บริเวณ ถ.อิสรภาพ25 พื้นที่ สน.บางกอกใหญ่, บริเวณ เดอะเซ้นส์ปิ่นเกล้า พื้นที่ สน.บางยี่ขัน, บริเวณ รร.โยธินบูรณะ พื้นที่ สน.บางโพ และบริเวณ ถ.งามวงศ์วาน47 พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง


พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจทั้ง 88 จุด ซึ่งมีการปรับแผนการตรวจให้มีลักษณะคล้ายเดิม คืออยู่ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง โดยให้แต่ละสถานีตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เช่น บางสถานีตำรวจเคยตั้งช่วง 21.00 น. ก็อาจเปลี่ยนเป็นเที่ยงคืน บางสถานีที่เคยตั้งเที่ยงคืน อาจปรับเป็น 02.00 น. ซึ่งให้แต่ละ สน. ไปพิจารณาร่วมกัน รวมถึงได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ ที่ให้นำเทคโนโลยี หรือ แอปพลิเคชัน TPCC มาใช้เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ตามนโยบาย ของ ผบ.ตร.


ส่วนมาตรการในการตั้งจุดตรวจตามแนวชายขอบของพื้นที่สีแดงเข้มนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตามแนวชายขอบมี 6 จุดตรวจหลัก คือ บริเวณ ทางออกสถานีรถไฟดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิต, แยกมหานคร ถ.สุวินทวงศ์, ถ.บางนา-ตราด, ถ.บรมราชชนนี, ถ.เพชรเกษม และ ถ.พระราม2 นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังได้กำชับจังหวัดที่ติดกับแนวชายขอบพื้นที่สีแดงเข้ม เช่น จ.สุพรรณบุรี จ.สระบุรี จ.เพชรบุรี เป็นต้น ที่จะต้องเพิ่มความเข้ม ในการตรวจการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชน โดยจะต้องตรวจรถทุกคัน ตลอด 24 ชม.


“สำหรับกรณีการเดินทางในช่วงกลางวัน ประชาชนยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่นโยบายของรัฐบาลคือให้ WFH เป็นหลัก นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ท่านได้ห่วงใยข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย จึงเน้นย้ำเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ว่าจะต้องปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19”