กองปราบรวบสาวแก๊งตกพระ ตุ๋นเหยื่อสูญเงินกว่า 3 แสนบาท ตรวจสอบพบคดีติดตัวกว่า 60 คดี

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.มณฑล จันทร์พรม รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.ไพรัช เสมอจิตร, ส.ต.อ.ประพล หนูดวง, ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ทองไทย ผบ.หมู่ กก.๑ บก.ป.

ร่วมกันจับกุม นางสาวมะลิษา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 954/2557 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง””

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ซอยลาดพร้าว 48 แยก 8 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2557 ผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 4 ราย ได้พบกับผู้เสียหายที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านลำลูกกา หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาจึงได้ทำทีเข้าไปพูดคุยสอบถามทางกับผู้เสียหาย เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียหายมีอัธยาศัยดี ก่อนจะชักชวนผู้เสียหายพูดคุยเรื่องพระเครื่องจนผู้เสียหายเกิดความสนใจ หลังจากนั้นจึงได้อ้างกับผู้เสียหายว่าตนเองกำลังจะนำพระสมเด็จวัดระฆังแท้ไปจำนำให้กับญาติ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงิน พร้อมกับนำพระเครื่องที่กล่าวอ้างยื่นให้ผู้เสียหายดู และในขณะนั้นเองก็ได้มีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายเดินเข้ามาทำทีเป็นพูดคุยกับผู้เสียหาย และชักจูงให้ผู้เสียหายเชื่อว่าพระเครื่องดังกล่าวเป็นของจริง ออกอุบายให้ผู้เสียหายรับซื้อไว้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ตกลงรับเช่าพระเครื่องดังกล่าว แต่ในขณะนั้นผู้เสียหายมีเงินสดไม่เพียงพอต่อค่าเช่าพระเครื่อง จำเป็นต้องไปถอนเงินในบัญชีธนาคารและนำทองที่บ้านไปขายก่อน กลุ่มผู้ต้องหาจึงพาผู้เสียหายไปถอนเงินและนำทองไปขาย ได้เงินจากค่าเช่าพระเครื่องไปเป็นเงินจำนวน 3๐๐,๐๐๐ บาท แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่าพระเครื่องดังกล่าวเป็นของปลอม จึงได้เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งทราบตัวหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว คือ นางสาวมะลิษาฯ (ผู้ต้องหาในคดีนี้) พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลตามหมายจับดังกล่าว

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีประวัติคดีอาญาจำนวน 64 คดี โดยเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งหมดและจากการตรวจสอบพบว่ายังมีหมายจับที่ต้องการตัว (ไม่รวมคดีนี้) อีก 7 คดี ดังนี้

  1. หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ232/2556 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
  2. หมายจับศาลแขวงพระเหนือ ที่ จ112/2558 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
  3. หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 20/2558 ลงวันที่ 29 มกราคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
  4. หมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 312/2558 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์”
  5. หมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ จ174/2559 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
  6. หมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 175/2559 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
  7. หมายจับศาลจังหวัดระยอง 37/2562 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2562 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปี 2562 โดยจะออกตระเวนตกทองหรือตกพระในหลายพื้นที่ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยชัดเจน เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ

จนกระทั่งวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยลาดพร้าว 48 แยก 8 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้เข้าจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพ

เพิ่มเติม https://www.posttoday.com/social/general/338360