กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป.
![](https://www.policetv.tv/wp-content/uploads/2021/07/20-07-64-2-1024x536.jpg)
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.มณฑล จันทร์พรม รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.ไพรัช เสมอจิตร, ส.ต.อ.ประพล หนูดวง, ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ทองไทย ผบ.หมู่ กก.๑ บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นางสาวมะลิษา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 954/2557 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง””
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ซอยลาดพร้าว 48 แยก 8 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2557 ผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 4 ราย ได้พบกับผู้เสียหายที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านลำลูกกา หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาจึงได้ทำทีเข้าไปพูดคุยสอบถามทางกับผู้เสียหาย เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียหายมีอัธยาศัยดี ก่อนจะชักชวนผู้เสียหายพูดคุยเรื่องพระเครื่องจนผู้เสียหายเกิดความสนใจ หลังจากนั้นจึงได้อ้างกับผู้เสียหายว่าตนเองกำลังจะนำพระสมเด็จวัดระฆังแท้ไปจำนำให้กับญาติ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงิน พร้อมกับนำพระเครื่องที่กล่าวอ้างยื่นให้ผู้เสียหายดู และในขณะนั้นเองก็ได้มีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายเดินเข้ามาทำทีเป็นพูดคุยกับผู้เสียหาย และชักจูงให้ผู้เสียหายเชื่อว่าพระเครื่องดังกล่าวเป็นของจริง ออกอุบายให้ผู้เสียหายรับซื้อไว้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ตกลงรับเช่าพระเครื่องดังกล่าว แต่ในขณะนั้นผู้เสียหายมีเงินสดไม่เพียงพอต่อค่าเช่าพระเครื่อง จำเป็นต้องไปถอนเงินในบัญชีธนาคารและนำทองที่บ้านไปขายก่อน กลุ่มผู้ต้องหาจึงพาผู้เสียหายไปถอนเงินและนำทองไปขาย ได้เงินจากค่าเช่าพระเครื่องไปเป็นเงินจำนวน 3๐๐,๐๐๐ บาท แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่าพระเครื่องดังกล่าวเป็นของปลอม จึงได้เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งทราบตัวหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว คือ นางสาวมะลิษาฯ (ผู้ต้องหาในคดีนี้) พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลตามหมายจับดังกล่าว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีประวัติคดีอาญาจำนวน 64 คดี โดยเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งหมดและจากการตรวจสอบพบว่ายังมีหมายจับที่ต้องการตัว (ไม่รวมคดีนี้) อีก 7 คดี ดังนี้
- หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ232/2556 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
- หมายจับศาลแขวงพระเหนือ ที่ จ112/2558 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
- หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 20/2558 ลงวันที่ 29 มกราคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
- หมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 312/2558 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์”
- หมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ จ174/2559 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
- หมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 175/2559 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
- หมายจับศาลจังหวัดระยอง 37/2562 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2562 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปี 2562 โดยจะออกตระเวนตกทองหรือตกพระในหลายพื้นที่ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยชัดเจน เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ
จนกระทั่งวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยลาดพร้าว 48 แยก 8 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้เข้าจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพ
เพิ่มเติม https://www.posttoday.com/social/general/338360