“บิ๊กโจ๊ก”พร้อม ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ตระเวณตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหาผู้ประกอบการ ภูเก็ตแซนบ๊อก วันที่ 2

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2564 ที่ จว.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าว รายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) , พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยคณะผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ออกตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจทั้งในพื้นที่ท่าเรือรัษฎา และผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่หาดกะตะ กะรน พร้อมพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาพักผ่อนอยู่ในพื้นที่และแจกหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนมองเห็นความสำคัญของการป้องกันตัวเอง

ระหว่างการพูดคุยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้การตอบรับ และขอบคุณประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้กลับมาท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนบล็อกและวันนี้ก็ยังคงพบกับบรรยากาศความสงบเงียบของธรรมชาติ สมกับที่ตั้งใจมาพักผ่อนพร้อมครอบครัว และขอให้กำลังใจคนไทยทุกคนฝ่าวิกฤตเชื้อร้ายตัวนี้ไปให้ได้ โดยยืนยันว่าพร้อมเป็นกระบอกเสียงให้กับคนทั่วโลกถึงความสวยสดงดงามของธรรมชาติในจังหวัดภูเก็ต

จากนั้นกลุ่มผู้ประกอบการได้นั่งหารือถึงแนวทางการปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 16 วันที่เปิดโครงการภูเก็ตแซนบล็อกโดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมรับว่า ฝนที่มารอบนี้ไม่ใช่ฝนตกใหญ่ แต่ก็เป็นสัญญาณที่มองเห็นน้ำมากขึ้น ดูมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ขณะที่ผู้ประกอบการรากหญ้าร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองส่วนใหญ่ยอมรับว่าโครงการนี้ยังไม่กระจายรายได้มาถึงเพราะคนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่เลือกที่จะ Shopping แต่มุ่งท่องเที่ยวแบบเก็บประสบการณ์ แต่ก็เข้าใจและหวังว่าในวันหนึ่งการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจะกลับมาเหมือนเดิม

ด้านผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวระหว่างเกาะยอมรับว่าช่วงนี้บริการท่องเที่ยวระหว่างเกาะยังไม่คึกคัก และยังมีติดขัดเรื่องการลงทะเบียนซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สะท้อนว่ามีระบบการจัดการด้านเอกสารมากเกินไปจึงอยากเรียกร้องให้รัฐมองหามาตรการใหม่ โดยการใช้ระบบดิจิทัล เหมือนไทยชนะ เข้ามาลงทะเบียนนักท่องเที่ยวในแต่ละจุด นั่นคือแสดงคิวอาร์โค้ดเดียวเที่ยวได้รอบเกาะ

ขณะที่ผู้ประกอบการฝั่งอ่าวปอ กำลังเร่งพัฒนาด้วยการนำระบบดิจิทัลเข้ามาให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายโดยบอกว่าจากนี้ไปจะจับมือกับผู้ประกอบการเรือข้ามเกาะสามท่า ด้วยการจัดทำระบบการจัดเก็บฐานข้อมูลในลิสต์แบนด์ และอาจพัฒนาไปไกลถึง Smart วอช ซึ่งจะทำให้สามารถติดตามนักท่องเที่ยวได้ในหลายรูปแบบทั้งในแง่ของความปลอดภัยด้านสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินด้วย

ทั้งนี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตยอมรับว่าการที่อียูประกาศให้ไทยผลจากประเทศกลุ่มสีขาวปลอดโควิดอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวบ้าง แต่ยังไม่มียอดยกเลิกการเดินทางจากยอดจองที่มาก่อนหน้านี้ 500,000 ห้องจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเกินกว่า 30% เป็นห้องพักจากโรงแรมขนาด สามถึงสี่ดาวไม่เฉพาะโรงแรมห้าดาวเท่านั้นที่มียอดจอง และยอมรับว่าสถานะของประเทศไทยที่ไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยวอาจกระทบต่อการจัดทำโครงการภูเก็ตแซนบล็อกแต่ไม่ใช่การล็อกดาวที่นี่แน่นอน

ด้านที่ปรึกษา (สบ 9) บอกว่าจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดที่ได้รับฟังจากกลุ่มผู้ประกอบการไปสะท้อนในมุมมองของหน่วยงานราชการที่สามารถประสานงานร่วมกันได้โดยเฉพาะในแง่ของการแก้ปัญหาการเก็บค่าบริการเกินจริงของกลุ่มแท็กซี่เสรี และการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการลดขั้นตอนด้านเอกสาร