โดนอีก ! แก๊งแฮกเฟซบุ๊ก ไลน์ หลอกสาวโคราชโอนเงินจ่ายค่าสินค้า ตำรวจภาค 3 เร่งติดตามจับกุม หลังทักแชทหลอกเป็นญาติเหยื่อ รวบผู้ต้องหาได้ 2 ราย กบดานที่จันทบุรี เตรียมออกหมายจับเพิ่ม
วันนี้ (15 กรกฏาคม 2564) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมแก๊งแฮกเฟซบุ๊ก ไลน์ หลอกโอนเงินจ่ายค่าสินค้า ในพื้นที่ดูแลของตำรวจภูธรภาค 3 โดยมี พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ,พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าร่วมแถลงข่าว
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 น.ส.เฉลิมลักษณ์ ภูวสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนและไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้ใช้ไลน์เก่าของนายประสิทธิ์ฯ ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียหายที่เคยทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หายเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนเกิดเหตุ แชทมาหลอกยืมเงินผู้เสียหายเพื่อจ่ายค่าสินค้า ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคนร้าย เป็นเงิน 47,900 บาท เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และในวันเดียวกัน มีนางสมจิตร์ ภูวสวัสดิ์ ผู้เสียหายอีกราย ถูกคนร้านได้ใช้ไลน์เก่าของนายประสิทธิ์ ฯ แชทมาหลอกยืมเงินผู้เสียหายเพื่อจ่ายค่าสินค้า อีกจำนวน 10,500 บาท เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งตอนหลังผู้เสียหายทั้งสองรายได้ตรวจสอบแล้วพบว่า โดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่ฯ จึงบูรณาการความร่วมมือกับกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ,กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ,สภ.โพธิ์กลาง และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 3 เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้าย ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเข้าจับกุมคนร้านที่กำลังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. สามารถจับกุมนายภิญโญ คงกอง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/2 หมู่ 3 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร จับกุมได้ที่ลานจอดรถบริษัท อาร์ซีทีคอนซูมเมอร์จำกัด เลขที่ 71/71 ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 167 / 2564 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และร่วมกันกระทำต่อบุคลใดบุคคลหนึ่งโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง บัตร ATM จำนวน 2 ใบ และตรวจสอบบัญชีธนาคาร ใน 3 เดือน พบยอดเงินหมุนเวียน จำนวน 3 ล้านบาท
และจากการขยายผลทราบว่า นายภิญโญ คงกอง และนายวัชรพล ศิริบุตร มีหน้าที่รับจ้างโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย โดยนายภิญโญ ฯ ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนร้อยละ 10 ส่วนนายวัชรพลฯ ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนร้อยละ 3 ของจำนวนเงินที่รับโอน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิด ซึ่งทราบตัวคนร้ายเพิ่มเติมแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกหมายจับ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชน ว่า “หากท่านใดถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 4367045210 และบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 8350042990 ชื่อ น.ส.ณัฏฐ์ชรินท์ พิบูลย์ สามารถติดได้ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 โทร.044 928868 และอย่าได้หลงเชื่อเมื่อมีญาติหรือมีบุคคลใกล้ชิดทักแชททางไลน์ หรือเฟสบุ๊ค มาให้โอนเงินหรือลงทะเบียนและล็อคอินเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โดยขั้นตอนการลงทะเบียนจะต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการยืนยัน OTP ซึ่งหลังจากลงทะเบียนเสร็จ แอพพลิเคชั่นจะขอข้อมูลส่วนบุคคลในการยืนยันตัวก่อนเข้าใช้งาน ดังนั้นควรติดต่อสอบถามจากเจ้าตัวก่อน เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงทำธุรกรรมทางการเงิน ด้วยความห่วงใยจากตำรวจภูธรภาค 3 ”