จากกรณีที่เมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาเหิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ก่อนจะสามารถควบคุมเพลิงได้ในช่วงประมาณ เที่ยงคืนที่ผ่านมา
บรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ยังคงมีควันจางๆ ออกมาจากบริเวณด้านในตัวอาคารโดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีบางจุดเกิดปะทุขึ้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงตลอดเวลา หลังจากมีการเฝ้าระวังมาตลอดทั้งคืน โดยล่าสุดขณะนี้ไม่พบการปะทุแล้ว แต่ยังต้องระบายความร้อนและควันออกจากอาคาร
ในเวลาต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัยหรือ คปภ. และ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน เพื่อประเมินความเสียหายและมาตรการเยียวยา แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบภายในพื้นที่โรงงานได้ เนื่องจากต้องรอเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยและได้รับอนุมัติจากฝ่ายผู้บริหารโรงงาน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่จะเข้ามาตรวจสอบก่อน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางเข้าไปตรวจตุดเกิดเหตุภายในแล้ว และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
ส่วนต้นเพลิง เบื้องต้นคาดว่ามาจากด้านหลังตัวอาคาร โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสันนิษฐานว่าต้นเพลิงอาจมาจากจุดจัดเก็บสินค้า ซึ่งมีกล่องกระดาษจำนวนมากเป็นเชื้อเพลิง แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก่อน
สำหรับบริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องพักโรงแรม โรงพยาบาล สายการบิน มีสินค้าจำพวก แชมพู สบู่เหลวอาบน้ำ โลชั่นทาผิว จึงมีเคมีภัณฑ์ที่ติดไฟง่ายอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่พนักงานกำลังเลิกงาน แต่มีกริ่งสัญญาณดังขึ้นว่ามีเหตุเพลิงไหม้ พนักงานจึงพยายามจะนำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับไฟแต่ไม่เป็นผล จึงรีบวิ่งหนีออกจากอาคาร ซึ่งพนักงาน 100 กว่าคนสามารถออกมาทันเวลา ไม่มีใครได้รับอันตราย
ขณะที่ในรอบตัวโรงงานบริเวณร่องน้ำ ทีมข่าวพบว่ามีสีที่เปลี่ยนไป คาดว่าจะมาจากสารที่ใช้ในการผสมเครื่องสำอาง มีการไหลออกมาจากตัวอาคารจากการดับเพลิงตลอดคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้คูน้ำแห่งนี้ยังเชื่อมต่อกับคูคลองภายนิกนิคม ซึ่งเป็นชุมชนอีกด้วย
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐานตำรวจอยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบ และพูดคุยกับผู้อยู่ในเหตุการณ์โดยใบ้สถานที่โรงงานใกล้เคียง ที่ขณะนี้ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าร่วมสังเกตุการณ์
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตลาดกระบังเร่งดำเนินการสำรวจโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมที่มีสารเคมี ในเบื้องต้นรายงานว่ามีจำนวน 12 โรงงานจากจำนวนทั้งหมด 236 โรงงาน จัดทำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยจะมีการประชุมหารือในช่วงบ่ายวันนี้
