พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว ผู้แทนขายประกันชีวิต แจ้งจับแก๊งต้มตุ๋นจอง “ชิโนฟาร์ม” แต่งเรื่องหลอกล่อจนเชื่อ สั่งจองให้ตัวเองและคนสนิท 20 คน ก่อนสูญเงินให้มิจฉาชีพ 36,000 บาท ว่า
กรณีดังกล่าวทราบจาก พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี รายงานว่า ผู้เสียหายมีอาชีพเป็นผู้แทนขายประกันชีวิต ในกรุงเทพมหานครและอุดรธานี ได้เข้าไปในกลุ่มไลน์ “Vaccine Sinopharm” คนร้ายอ้างว่ามีวัคซีนซิโนฟาร์ม เหลือจากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในราคา 1 คน 2 เข็ม 1,800 บาท เมื่อเข้าไปในกลุ่มไลน์ของคนร้ายยิ่งให้ความเชื่อมั่น จากข้อมูลชัดเจน-รวดเร็ว อีกทั้งการแจ้งเข้ากลุ่มไลน์ชื่อ “ระบบ IT วัคซีนทางเลือกสำหรับ ร.พ.” และยังมีภาพการจัดส่งรถ ไปรับคนมาฉีดวัคซีน และได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ จึงชักชวนคนรู้จัก และลูกค้าผู้ทำประกัน ที่ต้องการฉีดวัคซีนเร็วๆ รวม 20 คน ส่งสำเนาเอกสาร พร้อมโอนเงินส่วนตัวไปให้ 36,000 บาท เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่เมื่อไปตรวจสอบรายชื่อ ที่รพ.เอกชน ในจ.อุดรธานี กลับไม่มีรายชื่อตามที่แจ้งไว้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอน และน่าจะทำเป็นขบวนการ และเมื่อตรวจสอบกลุ่มไลน์พบว่ามีสมาชิกกว่า 1,000 คน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพฤติการณ์ความเชื่อมโยงจากกรณีผู้แทนขายประกันชีวิต พบว่ามีผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ในอีกหลายท้องที่ คือ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ, สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น, สน.เตาปูน, สน.สมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดได้โอนเงินจองวัคซีนไปบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาแก่งคอย จ.สระบุรี ตนจึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างว่าจัดหาวัคซีนชิโนฟาร์มได้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าต้องสั่งจองจากราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เท่านั้น ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายท่านใดที่หลงเชื่อไปแล้ว ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่มีการโอนเงิน
ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการกระทำผิดหลายท้องที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) Police Cyber Taskforce หรือศูนย์ PCT ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ PCT เร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด