รมว.ดีอีเอส จับมือรอง ผบ.ตร. ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์เงินหมุนเวียนหลักพันล้าน

รมว.ดีอีเอส จับมือรอง ผบ.ตร. เปิดศึกกวาดล้างข่าวปลอม และเดินหน้าทลายเครือข่ายพนัน
ออนไลน์ยูโร 2020 เตือนผู้เสพข่าวโซเชียลรอบคอบ ศึกษาข้อเท็จจริงก่อนร่วมคอมเม้นท์ขยายผลเฟคนิวส์ ส่วนการดำเนินคดีพนันออนไลน์ยูโร 2020 ไม่ถึงเดือนจับแล้ว 255 ราย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1 พันล้านบาท จ่อฟันเว็บพนันอีก 167 ยูอาร์แอล

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. ที่ กระทรวง DES ห้องประชุม MDES​ 1​ ชั้น 9​ ศูนย์ราชการฯ​ แจ้งวัฒนะ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ
สังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ
ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ศปอส.ตร.) แถลงข่าวการดำเนินงานกวาดล้างข่าวปลอม (เฟคนิวส์) และปฏิบัติการทลายเครือข่าย
พนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร 2020

ทั้งนี้ ผลการดำเนินการในรอบเดือน มิ.ย.โดยความร่วมมือของ กระทรวงดิจิทัลฯ กับสำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ ได้มีดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข่าวปลอมไปแล้วจำนวน 28 ราย อยู่ระหว่าง
ดำเนินการอีก 38 ราย รวม 66 ราย และจับกุมพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร 2020 อีก 104
คดี ปิดกั้นข้อมูลที่เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2 ) จำนวน 167 ยูอาร์แอล

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กรณีการดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่เฟคนิวส์ พบว่าหลายรายรับข้อมูลมาและ
โพสต์โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบถึงแหล่งที่มาและความถูกต้องของข้อมูลก่อน และอาจมีการขยายความ
ในคอมเม้นท์ หรือเป็นการโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อตามข้อมูลที่ตนโพสต์ จนทำให้รัฐ และผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย โดยผู้โพสต์จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่
2 ) พ.ศ.2560 ฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” ซึ่งมีอัตราโทษ
จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากข้อมูลข่าวสารนั้น
เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 จะมีความผิดตาม มาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

สำหรับผลปฏิบัติการร่วมกับตำรวจในการตรวจสอบ และดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บไซต์พนัน
ออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร 2020 มีการจับกุมแล้วจำนวน 104 ราย ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการ
เล่นพนันออนไลน์ หรือทำอุบายล่อ ชักชวน โฆษณา พ.ร.บ.การพนันฯ ผู้ต้องหา255 คน ยอดเงิน
หมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ตรวจยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 77 ล้านบาท

ขณะที่ การดำเนินการกับเว็บไซต์ที่ทำการโฆษณาชักชวนให้มีการเข้าเล่นการพนันออนไลน์ โดยมี
เนื้อหาที่มีลักษณะเป็นการจัดให้มีการเล่น ประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ตรวจสอบพบ 167 เว็บไซต์ และอยู่ระหว่างร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับหรือลบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์

“ขอเตือนประชาชนว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนมีความอ่อนไหวต่อ
ข้อมูลข่าวสาร อาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเสนอข่าวอันเป็นเท็จ เพื่อหวังสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น และ
ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงการพนันออนไลน์ อันเป็นการมอมเมาเยาวชน ซึ่ง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในเรื่องนี้ ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยตรวจสอบแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ก่อนโพสต์ข้อมูล มิฉะนั้นแล้วอาจมีความผิด
ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ” นายชัยวุฒิกล่าว


ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแส สามารถแจ้งมาได้ที่เพจ “อาสา จับตา ออนไลน์ “
https://m.facebook.com/DESMonitor/ หรือที่ศูนย์ PCT ตร. สายด่วน 1599 ตลอด 24 ชม.
หรือ เบอร์ตรง 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ