เปิดปฏิบัติการ “ยุทธการปราบอิทธิพลอ่าวไทย” บุกค้น 12 เป้าหมาย รวบพยานเพิ่มคดีฆ่าพ่อค้าหอย

คืบหน้าคดีฆาตกรรมอำพรางศพพ่อค้าหอยคนดังสุราษฎร์ธานี ผบ.ตร. ส่งกำลังกว่า 200 นายเปิด “ยุทธการปราบอิทธิพลอ่าวไทย” บุกค้นเป้าหมาย 12 จุดในพื้นที่สุราษฎร์ธานี และชุมพร รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เป้าหมายรู้ตัวเผ่นหนีก่อนเจ้าหน้าที่เข้าถึง

ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบช.ภ., พล.ต.ต.  นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.๘, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. (ผู้ช่วยศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สตช.), พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.๘, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เชิดพงษ์  ชิวปรีชา รอง ผบก.สส.ภ.๘, พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.๕ บก.ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป., พ.ต.อ.วิโรจน์ พะลังเดช ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สส.๒ บก.สส.ภ.๘, พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.ปพ. 

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภ.๘, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.๘ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุอุ้มฆ่า นายโกศลฯ

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 นางจินดาหราฯ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา ว่าเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 22.00 น. นายโกศลฯ (ผู้ตาย) ซึ่งเป็นสามีได้ออกจากบ้านไปดื่มสุราที่ศาลาหน้าบ้าน บริเวณหมู่ ๕ ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 นางจินดาหราฯ ไม่สามารถติดต่อนายโกศลฯ ได้อีก จึงได้เดินทางไปหาผู้ตายที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่พบผู้ใด พบเพียงรอยเลือดจำนวนมาก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา ให้ช่วยติดตามหาผู้ตาย

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้วางเเผน ร่วมกันฆ่าผู้ตาย จากนั้นได้ร่วมกันนำศพผู้ตายไปฝัง เเละต่อมาได้ขุดเอาศพผู้ตายขึ้นมา เพื่อนำไปถ่วงทิ้งทะเล ปิดบังอำพรางคดี และซ่อนเร้นศพ โดยคนร้ายร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดภายในวันเดียว

ต่อมาวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นางจินดาหราฯ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องขอให้ทางกองบังคับการปราบปรามช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.ป. จึงได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภ.๘, กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ บก.สส.ภ.8 ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวได้ทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย

๑. นายสุรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี นายคำธร หรือแน็ค (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี  นายสุรชัย หรือตาชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี  นายเกรียงไกร หรือเป็ด หรือเพชร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี นายเจริญ หรือพร (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี  นายจิรายุทธ หรือโจ้ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี  . นายทิวากร หรือบี (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปีนายนพดล หรือเอส (สงวนนามสกุล) อายุ 34ปี

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” 

ในวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕.บก.ป. ได้ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ บก.สส.ภ.๘ พร้อมหน่วยหนุมานกองปราบ นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน ๑๒ จุด ในพื้นที่    จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายและผู้ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยในระหว่างตรวจค้นจับกุม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดอื่นได้จำนวน ๒ ราย ดังนี้

๑. นายดุสิต (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๔ ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยของกลาง ๕ รายการ ดังนี้ อาวุธปืนยาวแบบลูกเลื่อน ยี่ห้อ Armscor จำนวน ๑ กระบอก  เครื่องกระสุนปืนขนาด .๒๒ พบบรรจุอยู่ในซองแม็กกาซีน จำนวน ๗ นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .๒๒ พบบรรจุอยู่ในรังเพลิง จำนวน ๑ นัด ซองแม็กกาซีน พบบรรจุอยู่ในตัวปืน จำนวน ๑ อัน กล้องช่วยเล็งติดปืนยาว จำนวน ๑ อัน 

๒. นายโกสินทร์ หรือก็อด (สงวนนามสกุล) อายุ ๕๒ ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 

“มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”  – เครื่องกระสุนปืนขนาด .๒๒ จำนวนรวม ๑๐ นัด – เครื่องกระสุนปืนขนาด .๓๕๗ จำนวน ๗ นัด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นพยานหลักฐานได้อีก ดังนี้ ๑. อาวุธปืนเดี่ยวลูกซอง ขนาด ๑๒ จำนวน ๑ กระบอก ๒. อาวุธปืนสั้น ขนาด ๙ มม. จำนวนรวม ๒ กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนรวม จำนวน ๒๒ นัด

จากการตรวจค้นและจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นๆที่ยังคงหลบหนีอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด