ตร. เตือนสติสังคมงดแชร์คลิป”ผู้หญิงเสียชีวิตขณะไลฟ์สดสอนทำอาหาร”

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการส่งต่อคลิปผู้หญิงคนหนึ่งที่ระบุว่าได้เสียชีวิตกำลังไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขณะสอนทำอาหารแล้วเกิดอาการล้มลงนอนกับพื้นห้องครัว ก่อนจะมีคนเข้ามาพยายามช่วยเหลือ เป็นคลิปความยาวประมาณ 5 นาที พร้อมข้อความที่เขียนว่า

“กำลัง ไลฟ์สดแนะนำการทำอาหาร อยู่ๆก็ล้มตึง จากนั้นก็เสียชีวิตเลย…อนิจจัง ไม่เที่ยงจริงๆ ชีวิตคนเรา รักษาสุขภาพกันด้วยนะ..โรคแบบนี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีสิ่งบอกเหตุเลย”

ก่อนจะแชร์ส่งต่อไปในโซเชียลฯ จำนวนมาก ต่อจากนั้นวันที่ 22 พ.ค. เพื่อนและญาติผู้หญิงคนดังกล่าวได้แจ้งเหตุการเสียชีวิตและขอร้องงดแชร์คลิปดังกล่าวต่อไปว่า…

“ขออนุญาตแจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของหนึ่งพิมพร ให้ทุกท่านทราบนะคะ หลังจากญาติส่งชันสูตรพบว่าหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจโต ทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนกำลังพาหนึ่งกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่จังหวัดเชียงราย ในห้วงเวลานี้ญาติพี่น้องยังยากทำใจต่อการจากไปของหนึ่ง อยากวิงวอนขอความกรุณาหยุดแชร์ภาพขณะที่หนึ่งเสียชีวิตด้วยค่ะ ทั้งนี้ขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกกำลังใจแทนญาติของหนึ่งมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ🙏🙏
ขอบพระคุณค่ะ”

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อ เบื้องต้นได้ตรวจสอบไปทางญาติและเพื่อนผู้หญิงยืนยันว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตในขณะไลฟ์สดจริง เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนส่งร่างไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. โดยแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตว่า หัวใจวายเฉียบพลันเนื่องจากหัวใจโต และได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา และฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ววันนี้

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อ แต่ขณะนี้ยังพบว่ามีการส่งต่อๆ คลิปดังกล่าวในสังคมออนไลน์ รวมทั้งมีสื่อออนไลน์หลายแห่งนำคลิปนี้ไปตัดต่อเผยแพร่ทั้งนี้อาจจะมีเจตนาดี เช่น เพื่อเตือนภัยเกี่ยวกับโรคหัวใจ เป็นต้น

ซึ่งพบว่าผู้คนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือด้วยการลบคลิปและหยุดการส่งต่อ จึงอยากจะฝากเตือนพี่น้องประชาชนตลอดจนแอดมินเพจต่างๆ ขอความกรุณาให้เกียรติผู้ตายด้วยการงดส่งต่อตามที่ญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตร้องขอ คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คิดถึงอกเขาอกเราหากผู้ตายเป็นญาติเราก็คงไม่อยากให้ส่งต่อภาพสะเทือนใจนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังอาจสุ่มเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องหากญาติผู้เสียชีวิตเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิต