รอง ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ทองผาภูมิ หลัง ตร.สนธิกำลัง จับกุมแรงงานต่างด้าวพร้อมผู้นำพา รวม 20 คน

รอง ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ทองผาภูมิ หลัง ตร.สนธิกำลัง จับกุมแรงงานต่างด้าวพร้อมผู้นำพา รวม 20 คน ขณะที่ผู้ต้องหาเผยรับค่าจ้าง 2 พันบาท สอบประวัติเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในคดีเดียวกันเมื่อปี 59

วันนี้ 19 พ.ค.64 พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.สุทธิโชค สระลอย สวป.ฯ พ.ต.ต.ภาวัต ธรรมวิเศษ สว.สส.ฯ นำกำลัง ตร.สภ.ทองผาภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.135 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า ร่วมกันจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จากชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี ด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน บล7256 กาญจนบุรี


กระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยตามที่สายข่าวรายงานมา จึงได้เข้าทำการสกัดจับ โดยสามารถจับกุมรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณทางเข้าสำนักสงฆ์ทิพุเยวนาราม ทางหลวงชนบท 3183 บ้านทิพุเย หมู่ 3 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากการตรวจสอบพบ นายเกรียงศักดิ์ จรรยา อายุ 38 ปี ที่อยู่12/9 หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ ซึ่งซุกซ่อนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาเต็มคัน จำนวน 19 คน เป็นชาย 11 คน และหญิง 8 คน

โดย นายเกรียงศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพเบื้องต้นว่า ตนเองรับแรงงานทั้งหมดมาจากริมทางหลวงหมายเลข 323 บริเวณ ตรงข้ามแขวงการทางสังขละบุรี โดยได้รับการว่าจ้างให้ขับรถจาก นายฮาซอม จิรกิตบำรุงกุล ให้ไปส่งแรงงานทั้งหมดที่บ้านห้วยเสือ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยได้ค่าจ้าง 2,000 บาท พร้อมทั้งนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มาส่งให้ที่บ้านตนเอง เพื่อให้มาใช้ในการขนแรงงานในครั้งนี้

ซึ่งทางตำรวจจะนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลักดับกลับประเทศ พร้อมดำเนินคดีกับ นายเกรียงศักดิ์ ผู้นำพา ในข้อหา ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม พร้อมสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวต่อไป

ต่อมา พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่า แรงงานต่างด้าวเหล่านี้จะลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติที่มีอยู่หลายช่องทาง ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แต่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยเป็นสายข่าวให้กับทางการอีกช่องทางหนึ่งด้วย เพื่อสกัดจับแรงงานไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในได้ ซึ่งหากแรงงานดังกล่าวสามารถลักลอบเข้ามาได้จะเป็นปัญหาตามมามากมาย และที่สำคัญยังส่งผลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอาจซ้ำเติมให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศย่ำแย่ลงไปอีก

ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาถี่มากขึ้น อาจจะด้วยสาเหตุจากสถานการณ์การเมืองและปัญหาเศรษฐกิจในประเทศเมียนมา จึงทำให้ชาวเมียนมาหาวิธีการที่จะลักลอบข้ามมาด้วยการเดินลัดเลาะมาตามช่องทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำ และจะพยายามหลีกเลี่ยงทางบกเพื่อหลบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ไทย อย่างไรก็ตามเราก็พยายามสกัดกั้นทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาพื้นที่ชั้นในได้

ด้าน พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากรับมอบนโยบายจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง เราก็พยายามหาทางสกัดกั้นแรงงานทุกช่องทาง และสามารถจับกุมได้เป็นระยะๆ ส่วนการจับกุมครั้งนี้ เราได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. จึงได้ร่วมกันวางแผนและสนธิกำลังเพื่อทำการจับกุม ซึ่งพบว่ากลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานจะทำการปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็จะพยายามสืบหาข่าวเพื่อสกัดกั้นและจับกุมอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายเกรียงศักดิ์ จรรยา ผู้ต้องหา เคยถูกเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 จับกุมดำเนินคดีในคดีเดียวกัน เมื่อวันที่ 22 ก.ย.59 พร้อมแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 8 คน เหตุเกิดที่จุดตรวจร่วมพุองกะ หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี./