จากสถานการณ์พบผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันไม่หยุด ล่าสุดเพิ่มอีก 5 ราย รวมสะสมแล้วกว่า 261 ราย ที่ยังมาจากคลัสเตอร์ชุมชนแออัดย่านกลางตัวเมืองชัยภูมิ ที่ยังมีกลุ่มเสี่ยงเป็นทั้งกลุ่มโจ๋ เด็กและเยาวชนในพื้นที่ลักลอบค้ายาเสพติดติดในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีการหลบหนีการกักตัวออกจากจากชุมชนแออัดคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19 ออกมานอกพื้นที่และลักลอบค้ายาบ้ากระจายไปต่ออีกหลายพื้นที่อยู่ในขณะนี้ด้วย ล่าสุด ผบช.ตร.ภ.3 บินด่วนลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท.ตร.ชัยภูมิ ที่ปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจนตัวเองติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มผู้ค้ายาในชุมชนแออัดกุดแคนไป 1 นาย พร้อมระดมปูพรมกวาดล้างขบวนการค้ายาบ้าตามรวบยึดของกลางได้อีกว่า 1.5 หมื่นเม็ด สั่งเข้มในทุกพื้นที่เริ่มเสี่ยงหวั่นกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่เครือข่ายผู้ค้ายาบ้าแพร่โควิด-19 ไปสู่กลุ่มเด็กเยาวชนผู้เสพในพื้นที่ตามมาอีกจำนวนมากได้!!
( 18 พ.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิดวิด-19 ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นยังต่อเนื่องรายวัน ล่าสุดวันนี้พบติดเชื้อเพิ่มอีกรวม 5 ราย รวมสะสมพุ่งสูงขึ้นรวม 261 ราย เสียชีวิต 7 ราย อยู่ที่ อ.เทพสถิต มาจากแรงงานขอย้ายกลับบ้านเกิดที่ชัยภูมิมาจากคลัสเตอร์พื้นที่จังหวัดเสี่ยงขอเข้าพื้นที่กลับมากักตัวอยู่บ้านเพิ่มอีก 1 ราย และที่ อ.ภูเขียว มาจากแรงงานขอย้ายกลับบ้านเกิดที่ชัยภูมิมาจากคลัสเตอร์พื้นที่จังหวัดเสี่ยงขอเข้าพื้นที่กลับมากักตัวอยู่บ้านเพิ่มอีก 1 ราย เช่นกัน
ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนจำนวนมากของ จ.ชัยภูมิ ยังอยู่ในคลัสเตอร์หลักใหญ่มาจากชุมชนแออัดที่ชุมชนกุดแคน ย่านเขตเทศบาลมีชุมชนอยู่ติดกันหนาแน่นกลางใจเมืองชัยภูมิ ซึ่งมีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชนแออัดแห่งนี้เป็นจำนวนมากควบคู่ไปด้วยเช่นกัน และมีกลุ่มโจ๋วัยรุ่นในพื้นที่ติดยาเสพติด และลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่แห่งนี้อีกเป็นจำนวนมาก หลังทางจังหวัดชัยภูมิ มีคำสั่งล็อกดาน์ชุมชนกุดแคนห้ามคนเข้าออกมาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.64 เป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้ชาวบ้านทุกคนในชุมชนกักตรวจดูอาการระหว่างรอผลตรวจคัดกรองหาเชื้อคนที่มีทั้งหมดในชุมชนอีกจำนวนมาอย่างต่อเนื่อง
จนล่าสุดพบว่ามีกลุ่มโจ๋วัยรุ่นจำนวนมากพากันหลบหนีการกักตัวออกจากชุมชนไปแล้วจำนวนมากก่อนที่จะมีคำสั่งปิดล็อกดาวน์ชุมชนกุดแคน จนปัจจุบันมีการไปพบว่ามีการไปแพร่เชื้อกับคนใกล้ชิดในกลุ่มวัยรุ่นต่างๆตามมาในอีกหลายพื้นที่เป็นจำนวนมาก เกือบทั่วทั้งทุกชุมชนกว่า 16 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ และตำบลรอยต่อทั้งที่ตำบลรอบเมือง รวมไปถึงตำบลท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ
และยังพบความเสี่ยงว่าจะมีการแพร่เชื้อรุกลามไปอีกจำนวนมากในกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ หลังเมื่อมีการปิดชุมชนกุดแคนเพียงไม่กี่วันก็พบมีการพยายามหลบหนีของกลุ่มโจ๋วัยรุ่นออกมาจากชุมชนแห่งนี้ต่อเนื่อง และล่าสุดทางชุด จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภงเมืองชัยภูมิ นำกำลังเข้าไปจับกุมวัยรุ่นค้ายาบ้ารายหนึ่งในชถุมชนกุดแคนเมื่อช่วงวันที่ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา หลังมีการควบคุมตัววัยรุ่นดังกล่าวส่งดำเนินคดีฝากขังที่เรือนจำชัย๓มิไปแล้ว ไม่กี่วันก็มี จนท.ชุดสืบสวนจับกุม 1 นาย มีอาการป่วยและไปตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 18พ.ค.64 ทางด้าน พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้บินด่วนลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลข้าราชการตำรวจในพื้นที่สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ที่ปฏิบัติหน้าจนติดเชื้อโควิด-19 มาจากกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่เป็นเครือข่ายมีทั้งกลุ่มโจ๋ วัยรุ่นที่ค้ายาบ้าในพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย ก่อนแถลงผลการสั่งระดมกำลังเร่งตามตามกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาบ้า ที่ยังมีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ให้หมดสิ้นโดยเร็ว และหวั่นจะเป็นการนำไปสู่การแพร่ระบาดของกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่มาจากเครือข่ายผู้ค้ายาบ้าแพร่โควิด-19 ไปสู่กลุ่มเด็กเยาวชนผู้เสพในพื้นที่ต่างๆตามมาอีกจำนวนมากได้ ณ หน้าอาคารหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งวันนี้ยังได้ระดมปูพรมจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่รายสำคัญในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และยึดของกลางได้อีกจำนวนมากด้วย โดยมีพล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ร่วมแถลงผลการจับกุมหลังได้มีการระดมกำลังบุกจู่โจมบ้านพักเป้าหมายไม่มีเลขที่ บริเวณริมแม่น้ำชี บ.โนนโก ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ได้พบกับนายกำพล ชัยศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.6 ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ทาง จนท.ตร.ชุดจับกุมจึงได้ตรวจค้นตัวนายกำพลฯ พบยาบ้าซุกซ้อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง จำนวน 3 เม็ด
ก่อนที่จะมีการขยายผลนำตัวเข้าตรวจค้นยาบ้า และยาไอซ์ ที่พบว่ายังมีการนำไปซุกซ่อนไว้ใส่ถังพลาสติกฝังดินไว้ในไร่อ้อยหลังบ้าน ก่อนขุดนำขึ้นตรวจสอบพบมียาบ้าอีก 15,803 เม็ด และยาไอซ์ 116.1 กรัม ซึ่งนายกำพล ยอมรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดและยาไอซ์ ทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากผู้ค้าไม่ทราบชื่อและนามสกุล แจ้งให้ไปรับยาบ้าใกล้กับทางรถไฟในเขต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะนำยาบ้ามาฝังไว้ที่ไร่อ้อยหลังบ้านพักของตนเอง เพื่อจะรอนำไปจำหน่ายให้กับผู้เสพในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดชัยภูมิ ต่อไป ก่อนที่จะมาถูกจับได้ในครั้งนี้ ซึ่งก็ยังพบว่าผู้ต้องหารายยังมีประวัติเคยต้องโทษคดี ครอบครองยาเสพติด(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 สภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ และเพิ่งพ้นโทษออมาได้ 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่นานก็ยังมาก่อเหตุลักลอบค้ายาบ้าซ้ำอีก ก่อนที่จะถูก จนท.ตร.กำลังบุกจู่โจมจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ และควบคุมตัวพาไปติดตามยึดทรัพย์ตาม พรบ.มาตรการ ทั้งรถยนต์เงินสดมูลค่าที่นับหลายล้านบาทเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายซ้ำอีกครั้งต่อไป