กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำร่องทดลองใช้ชุดสายตรวจใหม่ ใน 3 สน. กว่า 30 นาย เป็นเวลา 10 วัน ก่อนนำผลการทดลองปฏิบัติงานเข้าที่ประชุมสรุปผลพิจารณาว่าจะเปลี่ยนชุดสายตรวจทั่วประเทศมาเป็นรูปแบบใหม่หรือไม่
พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงข่าวการทดลองใช้เครื่องแบบเจ้าหน้าที่สายตรวจรูปแบบใหม่ ที่กำลังจะมีการเริ่มทดลองใช้ในวันนี้
โดย พลตำรวจเอกมนู ระบุว่า เครื่องแบบสายตรวจรูปแบบใหม่ มาจากการที่ ผบ.ตร.มีความคิดว่าต้องการให้การปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานปราบปราม สายตรวจ ทั่วประเทศให้มีความคร่องตัว และมีความทันสมัยมากขึ้น โดยการพัฒนา ชุดรูปแบบใหม่นี้ เป็นการร่วมกันพัฒนาจากหลายส่วนงาน พร้อมมีการสำรวจความต้องการของเจ้าหน้าที่ที่ค้องปฏิบัติงานจริง จนมาเป็นรูปแบบนี้
โดยชุดรูปแบบใหม่ จะมีการใช้ผ้าและสีแบบเดิม แต่ตั้งแต่ช่วงอกลงไปถึงเอว จะมีการนำผ้าไมโคไฟเบอร์ที่มีการระบายอากาศได้ดีมาใช้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องสวมใส่ชุดเกราะป้องกันตัวตลอดทั้งวัน สบายตัว ขณะที่ตัวตราสัญลักษณ์ ต่างๆ ที่เดิมเป็นโลหะ ก็เปลี่ยนมาใช้แบบผ้าเพื่อลดการบาดเจ็บทั้งตัวเจ้าหน้าที่ และผู้ถูกจับกุม เพราะที่ผ่านมา เวลามีการปฏิบัติงานแบะต้องเข้าจับกุม เวลามีการชุลมุน จะพบว่าผู้ถูกตับกุมหรือเจ้าหน้าที่มักจะได้รับบาดเจ็บ จากตราสัญลักษณ์
ขณะที่กางเกงของชุดรูปแบบใหม่ จะใช้เป็นรูปแบบแทคติคอล ที่มีช่องกระเป๋าใส่ของที่ข้างขา และมีความหยืดหยุ่น ในการปฏิบัติงานที่อาจจะต้องมีการลุกนั่งอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพื่อให้คร่องตัวเวลาวิ่งไล่ล่า เช่นเดียวกับหมวก ที่มีการเปลี่ยนมาใช้เป็นหมวกแก๊บ เพื่อป้องกันการหลุดขณะวิ่ง และลดน้ำหนักจากการสวมใส่ตลอดทั้งวัน
ซึ่งเบื้องต้น จะมีการเริ่มทดลองใช้ เป็นเวลา 10 วันนับจากวันนี้ ไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม โดยเริ่มทดลองกับ 3 สน. คือสน.จักรวรรดิ, บางยี่ขัน และ บุคคโล จำนวน 30 คน โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเปิดรับความคิดเห็นจากทั้งประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เป็นชุดทดลองใช้ สำหรับประชาชนสามารถร่วมเสนอความคิดเห็นได้จากทุกช่องทางของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ขอยกเว้นสายด่วน 191 เรื่องจากต้องใช้ในการรับเหตุฉุกเฉินและรับสายด่วนการช่วยเหลือโควิด-19
ในส่วนของงบประมาณ ของการจัดซื้อ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เป็นการเริ่มทดลองใช้ และจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งหากสรุปว่านำรูปแบบนี้มาใช้จริง ก็ไม่กังวล เนื่องจาก ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการจัดซื้อชุดให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศอยู่แล้ว ก็เพียงนำชุดนี้มาทดแทนในบางส่วนงานแทน