เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 เม.ย. 2564 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.ฯ ปฏิบัติราชการ บช.น. พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย และนางสุภาพร ศรีศาสนวงศ์ ผอ.เขตลาดพร้าว เดินทางตรวจร้านอาหารแซ่บอินดี้ ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) แขวง-เขตลาดพร้าว เพื่อประชาสัมพันธ์ กำชับการปฏิบัติ ตามมาตรการควบคุมโรค ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ผบช.น.กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีการระบาดของโรคในสถานบริการ โดยทางกรุงเทพฯ มีมาตรการสั่งปิดสถานบริการใน 3 เขตรวมทั้งสิ้น 182 ร้าน ส่วนเขตอื่นเหมือนเดิมคือสามารถเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 23.00 น. วันนี้เดินทางมาทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมอื่นจากร้านอาหาร ซึ่งเบื้องต้นพบว่าทางร้านมีมาตรการป้องกันได้ดี มีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีการบันทึกข้อมูลประชาชน สามารถตรวจสอบได้ มีการรักษาระยะห่าง และการคำนวนจำนวนคน ตรวจสอบการระบายอากาศ รักษาความสะอาดยังไง พนักงานมีการป้องกัน สวมหน้ากากและถุงมืออนามัย สำหรับเรื่องการป้องกันดังกล่าว อยากจะย้ำเตือนทางผู้ประกอบการ ลำพังทางเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราก็ส่วนหนึ่ง แต่ก็อยากเน้นย้ำถึงผู้ประกอบการซึ่งมีส่วนสำคัญ อยากให้ช่วยกัน เชื่อว่าจะยังป้องกันการแพร่เชื้อได้
ผบช.น.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในส่วนของพื้นที่ทองหล่อ เท่าที่ทราบเมื่อวานสถานบริการหลาบแห่งได้ปิดให้บริการ และในวันนี้ทางกรุงเทพมหานครก็ได้มีคำสั่งให้สถานบริการใน 3 เขตปิดให้บริการ จากรายงานเบื้องต้นพบว่าสถานให้บริการปิดเงียบ เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ออกตรวจตราในพื้นที่ จากทั้งหมด 148 นายตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 9 นายติดเชื้อ ส่วนอีก 22 นายซึ่งสัมผัสผู้ป่วย เข้าข่ายเฝ้าดูอาการ 14 วัน ซึ่งเวลานี้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดอยู่ในการดูแลของทางแพทย์
ด้านนายณัฐนนท์ จินดาพราหมณ์ หุ้นส่วนร้านแซ่บอินดี้ เปิดเผยว่าสำหรับทางร้านมีวิธีและมาตรการการดูแลร้านและเพิ่มความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เช่นก่อนเข้าร้านจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียนทั้งทางสมุดและสแกนไทยชนะ การเว้นระยะทางการนั่งของแต่ละโต๊ะ พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และถุงมือยางเพื่อลดการสัมผัสโดยตรง รวมไปถึงการชงเครื่องดื่มเราจะมีไม้สำหรับชงเครื่องดื่มแบบแก้วใครแก้วมัน เพื่อเพิ่มระดับการป้องกันในการแพร่บาด นอกจากนี้ยังได้มีการพูดและทำความเข้าใจกับพนักงานว่าตอนนี้เป็นวิกฤตที่เกี่ยวกับโรคระบาด ดังนั้นอยากให้ทุกคนลดการเที่ยว และอยู่กับที่ให้ได้มากที่สุด ดูแลตัวเอง ซึ่งทุกคนก็เข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากมีการแพร่ระบาดอีกระรอกก็ยังคงใช้มาตราการนี้อยู่ ท้ายที่สุดทุกคนคงไม่มีอยากให้การแพร่ระบาดลุกลามระรอกที่3 จริงอยากให้กำลังใจ และให้ทุกคนสู้ๆต่อไป