พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการปฎิบัติ “ยุทธการหนุมานดับบูรพา” ของกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจน้ำ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ระยอง , จันทบุรี , ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เครือข่าย “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการจับกุม “หลงจู๋สมชาย” ตามหมายจับข้อหา จ้างวานฆ่า ที่บงการสั่งฆ่าปิดปากวินจักรยานยนต์รับจ้างที่แอบถ่ายรูปบ่อนไปแฉ และความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนที่ 2 คือการจับกุม นายธนา จุติกิติ์เดชา บุตรชายของ “หลงจู๋สมชาย” และพวกรวม 7 คน ตามหมายจับข้อหา จัดให้มีการเล่นพนัน และ ร่วมกันฟอกเงิน โดยทั้งหมดยังอยู่ในควบคุมตัวไปขยายผล โดยเฉพาะนายธนาและพวก ตำรวจได้นำตัวไปตรวจสอบอายัดเรือยอร์ชของนายธนา ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าจอดเรือเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี อีกทั้งยังอายัดรถยนต์ไว้ 4 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ อีกกว่า 100 รายการ รวมมูลค่า 880 ล้านบาท อยู่ระหว่างอายัดดำเนินคดีอีกกว่า 700 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่ถูกจับกุมในปฎิบัติการครั้งนี้ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ยังได้ไปตรวจสอบ บริษัท เดอะ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และหมู่บ้านจัดสรร ที่มี “หลงจู๊สมชาย” และนายธนา เป็นกรรมการบริษัท หลังพบว่ามีเงินจากการทำบ่อนการพนันโอนเข้าไปในบัญชีบริษัทดังกล่าว
สำหรับการดำเนินคดีและอายัดทรัพย์เครือข่ายของ “หลงจู๋สมชาย” มีผู้ต้องหาทั้งหมด 22 คน ออกหมายจับไปแล้ว 35 หมาย จับกุมไดัแล้ว 8 คน ตรวจสอบพบทรัพย์ที่อาจได้มาจากการกระทำความผิด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 บาท จากนั้นจะประสาน ปปง.เพื่อตรวจสอบยึดทรัพย์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ก็พยายามเข้าไปร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ซึ่งก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะมาให้ข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับคดีที่ “หลงจู๊สมชาย” ไปพัวพันกับเว็ปพนันออนไลน์ และคดีจ้างวานฆ่ากับตำรวจกองปราบ แต่ก็ไม่ได้เข้าไป
อีกทั้งยังปฏิเสธว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปจ้างวานคนขับวินจักรยานยนต์รับจ้างที่แอบถ่ายรูปบ่อนของ “หลงจู๊สมชาย” จนถูกยิงเสียชีวิต แต่เชื่อว่าเป็นนายบ่อนคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม