ตำรวจ PCT ศปอส.ตร. แถลงจับกุมคดีสำคัญ 3 กรณี ล้วนเกิดจากการหลอกลวงผ่านหลากหลายรูปแบบ ความเดือดร้อนกระจายทั่วประเทศมีผู้เสียหายกว่า 2,000 คน
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นำโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และผอ.ศปอส.ตร พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะ แถลงผลการจับกุมสำคัญ 3 กรณี
โดยคดีแรก จับกุมผู้ต้องหา 1 คน ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฟอกเงิน สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ม.ค.2564 มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าขอความช่วยเหลือ ศปอส.ตร. ถูกกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นผู้ประกอบการขายปุ๋ยและเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรมาขอซื้อปุ๋ยราคาสูง ทำให้ผู้เสียหายคิดว่าจะได้ส่วนต่างจากการซื้อขายหลงเชื่อโอนเงินซื้อขายสินค้าเป็นปุ๋ยมูลไก่อัดเม็ด แต่ไม่ได้รับสินค้า ผู้ต้องหาทำความผิดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ 22 คดี รวมมูลค่าเสียหายกว่า 10,000,000 บาท
คดีที่ 2 ความผิดหลอกซื้อซิมการ์ด ผู้ต้องหา 2 คน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2564 มีกลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อซิมอินเทอร์เน็ตรายปีพร้อมโทรฟรี 24 ชั่วโมง ซื้อ 1 แถม 1 ราคา 999 บาท จากปกติราคา 3,999 บาท ทางเฟซบุ๊ก คดีนี้มีผู้เสียหายถูกหลอกลวงทั่วประเทศ 2,000 คน ความเสียหาย 6,000,000 บาท จากนั้น เมื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลยังพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้ เคยมีประวัติทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายคดี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3 ความผิดหลอกขายทะเบียนรถสวย สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน มี.ค.2564 มีกลุ่มผู้เสียหาย
ถูกหลอกจากเพจเฟซบุ๊กเงินกู้นอกระบบชื่อ เงินด่วนทันใจเงินกู้นอกระบบ หลอกผู้เสียหายให้เปิดบัญชี แล้วนำบัญชีไปใช้รับโอนเงินในคดีหลอกขายทะเบียนสวย ผ่านเว็บไซต์ https://monkeylucky77.com สืบสวนสอบสวนขยายผลยังพบมีความเชื่อมโยงกันทางการเงิน
เหตุเกิดหลายท้องที่ ชุดสอบสวนเฉพาะทาง ศปอส.ตร. ชุดเทคนิคสืบสวน 2 สืบสวนแจ้ง สน.คลองตัน ขอศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับ นายสุเมธ ครองวงศ์ กับพวก 2 คน ก่อนเข้าปิดล้อมจับกุม อายัดทรัพย์สินรถยนต์ 2 คัน เงินในบัญชีรวม 10 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงเดือน ต.ค.2563 ถึง ม.ค.2564 ต่อมาข้อมูลยังพบมีผู้เสียหายคดีประมูลทะเบียนสวยอีก 30 คน มูลค่าความเสียหาย 1,150,000 บาท ส่วนคดีหลอกกู้เงินทางเฟซบุ๊กมีผู้เสียหาย 10 คน มูลค่าความเสียหาย 52,000 บาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ศปอส.ตร. รับรายงานจากตำรวจพื้นที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วบางส่วน จากนี้จะรวบรวมข้อมูลคดีทั้งหมดพร้อมรายงานการสืบสวนส่งให้แต่ละภาค เพื่อส่งต่อให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป สำหรับผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ สามารถแจ้งความโรงพักในพื้นที่เกิดเหตุ คือ สถานที่โอนเงิน โดย ศปอส.ตร.จะประสานกับพื้นที่เพื่อสนับสนุนข้อมูลในทางคดีต่อไป
