รองผบช.น. จวก ไม่อยากให้วางสิ่งกีดขวาง ก็แค่ไม่ต้องมาชุมนุม เตือน แจกหนังสืออานนท์ ผิดกม.

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แถลงมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการชุมนุมซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มรีเด็มในวันนี้ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 18.00น.-21.00น.เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิยะ มาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ในการชุมนุมวันนี้ ตำรวจนครบาล ขอเตือนว่า กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมมั่วสุม หรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ประกอบ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ การชุมนุมทุกอย่างในกรุงเทพฯ ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น โดยตำรวจนครบาลได้จัดกำลังอำนวยความสะดวกการจราจร และส่งกำลังไปเสริมเจ้าหน้าที่ กทม.ที่ดูแลท้องสนามหลวง เบื้องต้นประเมินว่าเพียงพอต่อสถานการณ์ตามการข่าว โดยการวางรั้วลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์ รอบสนามหลวงนั้น เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องป้องกันสถานที่สำคัญ อาทิ ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

ซึ่งการที่กลุ่มรีเด็มแจ้งว่าจะร้องขอให้เจ้าหน้าที่ไม่วางสิ่งกีดขวาง เพราะเกรงจะกระทบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนักเรียน ม.ปลาย ในช่วงเที่ยงวันนั้น แก้ไขง่ายนิดเดียว เพียงแค่ไม่มาชุมนุม จะอ้างว่า มีผลกระทบไม่ได้ ก็เพราะตัวกลุ่มผู้ชุมนุมเอง ไม่ใช่การวางกำลังของตำรวจ

ทั้งนี้ สนามสอบต่างๆ ไม่ได้อยู่รอบสนามหลวง แต่เส้นทางเคลื่อนผ่านของผู้ชุมนุมอาจมีผลกระทบ ตอนนี้ยังไม่สั่งปิดถนน แต่จะดูสถานการณ์ในช่วงเย็นอีกครั้งว่าจำเป็นต้องปิดถนนหรือไม่ ซึ่งถนนท้ายวังและอัษฎางค์จะได้รับผลกระทบแน่นอน ขอให้ใช้สะพานพุทธ สะพานปกเกล้า ข้ามจากฝั่งพระนครไปฝั่งธนบุรีเป็นเส้นทางเลี่ยง รวมถึงสะพานพระราม 8 และสะพานซังฮี้ เพื่อเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก

พล.ต.ต.ปิยะ ตามที่มีการประกาศว่าจะแจกจ่ายหนังสือสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะหมิ่นประมาทผู้ใดผู้หนึ่ง หรือหมิ่นประมาทตามกฎหมายอาญา ม.112 ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา ผู้จ่ายแจกหรือผู้เกี่ยวข้อง ถือเป็นผู้กระทำผิดทั้งสิ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการชุมนุมมา ตำรวจได้จับกุมและคุมตัวผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 179 คดี ส่งฟ้องอัยการ 129 คดี ที่เหลือกำลังสืบสวนสอบสวน และจะรายงานผลเป็นระยะ

พ.ต.อ.กฤษณะ ความจำเป็นวางสิ่งกีดขวาง เป็นการประเมินสถานกาณ์ของเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ และไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อาจไม่ได้ตั้งใจจะบุกรุก แต่มีอารมณ์ร่วมระหว่างการชุมนุม กระทำผิดซ้ำ