วันที่ 2 มีนาคม 2564 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.ท.เฟื่องฤทธิ์ ศรีนวล รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ศิริรัตน์ หรือ ตุ๊กกี้ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลจังหวัดแขวงนครราชสีมา ที่ 54/2564 ลง 23 ก.พ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้รู้จักกับ น.ส.ศิริรัตน์ หรือตุ๊กกี้ฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2564 น.ส.ตุ๊กกี้ฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาชักชวน น.ส.เอฯ (ผู้เสียหาย) ให้ร่วมลงทุนธุรกิจขายหน้ากากอนามัย โดยจะได้เงินปันผลเป็นค่าตอบแทน น.ส.เอฯ หลงเชื่อจึงโอนเงินลงทุนให้กับ น.ส.ตุ๊กกี้ฯ จำนวน 2,000,000 บาท แต่เมื่อครบกำหนด น.ส.ตุ๊กกี้ฯ ไม่ได้จ่ายเงินปันผลตามกำหนด ผัดผ่อนกับผู้้เสียหายมาตลอด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกหลอก จึงได้แจ้งความดำเนินคดี จนกระทั่งพนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ตุ๊กกี้ฯ ทราบว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 น.ส.ตุ๊กกี้ฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. จับกุมในข้อหา “ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน นำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ สู่ระบบคอมพิวเตอร์” รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 400 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาชักชวนกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นกลุ่มแม่ค้าขายสินค้าออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ให้ร่วมลงทุนเป็นตัวแทนขายสินค้า และสั่งซื้อสินค้า หรือสต๊อกสินค้า ตัวใหม่จำนวนหลายรายการ เช่น สบู่ , ครีม , เซรั่ม ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งสมาชิกที่ลงทุนไม่ต้องนำสินค้าไปจำหน่ายเอง จะมีทีมงานของผู้ต้องหา เป็นผู้นำสินค้าไปขายให้ โดยอ้างว่าทีมงานดังกล่าวไม่มีทุน จึงต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการสต๊อกสินค้า ซึ่งหากสมาชิกสั่งซื้อสินค้าในจำนวนมากจะทำให้สามารถซื้อสินค้าในราคาต้นทุนที่ต่ำส่งผลให้กำไรสูงขึ้น โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์แอบอ้างชื่อศิลปิน ดาราชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้า เเต่เมื่อครบกำหนดส่งมอบสินค้าผู้ต้องหากลับไม่มีสินค้าที่ออกมาขายตามที่ตกลง อ้างว่าเกิดความล่าช้า ทาง อย. มีความเข้มงวดมากต้องรอสินค้าได้รับอนุญาตก่อน ซึ่งผู้ต้องหาผัดผ่อนแบบนี้เรื่อยมา จึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้เข้าเเจ้งความ ดำเนินคดี
โดยปัจจุบันตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเปิดเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ ตุ๊กกี้ ขายครีม เปิดลงทุน “บ้านออมเงินKK” มีการโฆษณาชวนเชื่อรับประกันเงินต้น 100% เงินทุนหมุนเวียน ผ่อนไอโฟน ผ่อนทอง บริการทุกระดับประทับใจ
ทางกองบังคับการปราบปราม เล็งเห็นว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมกระทำการในลักษณะเช่นเดิม สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน และเพื่อป้องกันความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง และเพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดในรูปแบบเช่นนี้ ทาง กก.2 บก.ป. จึงดำเนินการเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านพักภายในซอยนวมินทร์ 111 ถนนประเสริฐมนูญกิจ เขตบึงกุ่ม แขวงนวมินทร์ กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2564 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. จึงได้ขออนุญาตศาลแขวงพระนครเหนือเข้าตรวจค้นบ้านพัก จากการตรวจค้นสามารถจับกุมตัว น.ส.ศิริรัตน์ หรือตุ๊กกี้ฯ ได้ที่บ้านพัก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.ศิริรัตน์ หรือตุ๊กกี้ฯ ได้ให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้ฉ้อโกง แต่รับว่านำเงินของผู้เสียหายมาจริง โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน และรับว่าเคยถูกตำรวจ บก.ปอศ. จับกุมในกรณีดังกล่าวจริง
กองปราบปรามจึงขอประชาสัมพันธ์ ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการการกระทำดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีประชาชนได้รับความเสียหายหลายรายในหลายพื้นที่ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงพฤติกรรมการกระทำในลักษณะดังกล่าว หากท่านได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว ท่านสามารถแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ในพื้นที่เกิดเหตุต่อไป