กองปราบรวบเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ ยึดยาบ้าได้กว่า 10,000 เม็ด ก่อนทะลักขายทั่วบึงกาฬ

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.๓ บก.ป., พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เตชะพันธ์ รอง ผกก.๓ บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.๒ บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ ผกก.๓ บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.๓ บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ ๓ กก.๓ บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย นายศุภกิตติ์ หรือแบงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ ๑๙ ปี นายนพศักดิ์ หรือต่อง (สงวนนามสกุล) อายุ ๒๕ ปี  น.ส.นฤมล หรือโม (สงวนนามสกุล) อายุ ๒๑ ปี จับกุมตัวได้ที่ บริเวณถนนทางเข้าท่าทราย บ้านท่าอินทร์แปลง หมู่ที่ ๕ ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.บึงกาฬ ต่อเนื่อง หมู่ที่ ๔ บ้านห้วยดอกไม้ ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.บึงกาฬ

พร้อมด้วยของกลาง  ยาบ้า จำนวน 9,234 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน ๐.๘๖ กรัม ลูกระเบิดชนิดขว้างไม่ทราบชนิดและยี่ห้อ สีเขียว จำนวน 1 ลูก โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน กระเป๋าเป้ จำนวน 2  ใบ

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๓ บก.ป. และ    เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยเฉพาะกิจที่ ๒๑๐๗ ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มเครือข่ายผู้ลักลอบค้ายาเสพติดทำการลักลอบลำเลียงยาบ้าส่งต่อไปยัง กลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดคนลาว บริเวณพื้นที่หมู่บ้านฝั่งตรงข้ามประเทศลาว

ต่อมาวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๓ บก.ป.จึงได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งได้รับแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า จะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดให้กับกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดคนลาว ชื่อท้าวดำ (ไม่ทราบนามสกุล) ที่บริเวณท่าทรายในพื้นที่บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดยจะลักลอบส่งมอบยาบ้ากันในห้วงเวลาประมาณหลังเที่ยงคืนถึงรุ่งเช้าของวันถัดไป

ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๓ บก.ป., เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยเฉพาะกิจที่ ๒๑๐๗, เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.๒๔๔๓, เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.รน.๔ กก.๑๑ บก.รน. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับเเจ้งเบาะเเส กระทั่งเวลาประมาณ ๐๖.๓๐ – ๐๗.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบกลุ่มผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เป็นรถลักษณะพ่วงด้านข้าง และแบบขับขี่นั่งซ้อนท้าย เข้ามาในพื้นที่ท่าทราย บริเวณบ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาได้เดินไปบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง แล้วเดินย้อนกลับมายังจุดที่จอดรถจักรยานยนต์ ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น แต่กลุ่ม           ผู้ต้องหากลับแสดงอาการมีพิรุธน่าสงสัยและพยายามจะขับขี่รถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวไว้ โดยจากการตรวจค้น นายศุภกิตติ์ หรือแบงค์ฯ ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า (ลักษณะพ่วงซาเล้งด้านข้าง) รุ่น เวฟ ๑๑๐ ซีซี สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พบยาบ้าของกลางจำนวน ๙,๒๒๓ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห่อวัตถุชนิดหนึ่ง และในส่วนของ          นายนพศักดิ์ หรือต่องฯ คนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ ๑๑๐ ซีซี สีขาวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กับ น.ส.นฤมล หรือโมฯ คนนั่งซ้อนท้าย ตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน ๑๑ เม็ด, ยาไอซ์น้ำหนักรวมถุงประมาณ ๐.๘๖ กรัม และลูกระเบิดชนิดขว้างไม่ทราบชนิดและยี่ห้อ สีเขียว จำนวน ๑ ลูก

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ร้อย ตชด.๒๔๔ มาทำการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าว ก่อนจะทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามปากคำ

          ๑. นายศุภกิตติ์ หรือแบงค์ฯ ให้การว่ารับสารภาพว่า นายนพศักดิ์ หรือต่องฯ เป็นผู้ว่าจ้างให้มารับยาบ้า โดยได้ค่าจ้างเป็นเงิน ๒๐๐ บาท หรือ ยาบ้า ๒๐๐ เม็ด

          ๒. นายนพศักดิ์ หรือต่องฯ ให้การรับว่า ยาบ้าของกลางจำนวน ๑๑ เม็ด และ ยาไอซ์ ๐.๘๖ กรัม เป็นของตนเองจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้างให้ นายศุภกิตติ์ หรือแบงค์ฯ มาขนยาเสพติดแต่อย่างใด

          ๓. น.ส.นฤมล หรือโมฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าเสพยาบ้ามาจริง และให้การ นายนพศักดิ์ หรือต่องฯ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ได้ใช้อาวุธปืนและลูกระเบิดบังคับขู่เข็ญให้ตนมาเป็นเพื่อนในการมารับยาบ้า